head prakardsod






























































ผู้เขียน หัวข้อ: งานมอเตอร์โชว์ รวมรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันไหนน่าซื้อที่สุด  (อ่าน 34 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 537
    • ดูรายละเอียด
งานมอเตอร์โชว์ รวมรถยนต์ไฟฟ้า 100% คันไหนน่าซื้อที่สุด

รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่น่าสนใจ มีทั้งสมรรถนะสุดขั่ว หรูหราแบบพรีเมียม หรือจะเป็นดีไซน์ที่ทันสมัยโฉบเฉี่ยว จนหลายคนเริ่มลังเลตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นไหนดี ซึ่งแต่ละรุ่นก็มาพร้อมราคาที่แทบจะเท่ากันระหว่าง 1.3 - 1.6 ล้านเท่านั้นเอง แถมยังมีสเปกกับสมรรถนะที่สูสีกันอีกด้วย มาดูภาพรวม ๆ ของรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจซื้อในงานนี้อีกรอบก่อนตัดสินใจซื้อกันครับ
 

สรุปรถยนต์ไฟฟ้าคันไหนน่าซื้อสุด

ORA 07 รถยนต์สปอร์ตซีดานไฟฟ้าพรีเมียมรูปทรงคงความเป็นเอกลักษณ์แบบ "น้องแมวดี" Goodcat มาพร้อมเทคโนโลยีที่อัปเกรดขึ้นไปอีกขั้นทั้งระบบพลังมอเตอร์ไฟฟ้า หน้าจอต่าง ๆ เวอร์ชันใหม่ไหลลื่น ภายในให้ความสปอร์ตแบบซูเปอร์คาร์ระดับหลยล้าน และด้านสมรรถนะก็จัดจ้านไม่น้อยหน้าใครกว่า 400 แรงม้า 0-100 กม./ชม. ใน 4.XX วินาที
 
 
มิติตัวรถ 4,871 x 1,862 x 1,500 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อ 2,870 มิลลิเมตร ระยะความสูงใต้ท้องรถ 125 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 2,115 กิโลกรัม (Perfomance) ตัวถังใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูงถึง 77.6% เหล็กที่มีความแข็งแรงสูง 30.6% เหล็กที่มีความแข็งแรงสูงพิเศษ 29.4% และเหล็กขึ้นรูปร้อน 17.6% โครงสร้างรับน้ำหนักได้ 9.5 ตัน
 
สมรรถนะ ORA 07
ORA 07 รุ่น PERFORMANCE มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 680 นิวตัน-เมตร วิ่งได้ระยะสูงสุด 550 กิโลเมตร (NEDC Standard) และมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R19 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 4.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 180  กม./ชม. (ล็อก)ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์
ORA 07 รุ่น LONG RANGE มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดมอเตอร์ไฟฟ้าสูงสุด 340 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ขนาด 83.499 kWh วิ่งได้ระยะสูงสุด 640 กิโลเมตร (NEDC Standard) ขับเคลื่อนล้อหน้า พร้อม 6 โหมดเป็นไปอย่างง่ายดาย ได้แก่ โหมดประหยัด โหมด WELL BEING โหมดปกติ โหมดสปอร์ต โหมดสปอร์ตพลัส และโหมดส่วนบุคคล  ระบบกันสะเทือนหน้าแบบอิสระแมคเฟอร์สัน และระบบกันสะเทือนหลังแบบมัลติลิงก์ 

ออปชันและเทคโนโลยี
หลังคาแก้วแบบพาโรนามิคขนาดใหญ่ (Panoramic Glass Roof)
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิทัลขนาด 10.25 นิ้ว
จอแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกด้านหน้า (Head-up display)(Perfomance)
พวงมาลัยปรับแบบไฟฟ้า 4 ทิศทาง
หน้าจอกลางอัจฉริยะแบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว รองรับความบันเทิงได้ทั้ง Apple CarPlay, Android Auto, MP5, Bluetooth, ระบบนำทาง
ลำโพง Infinity คุณภาพสูง 11 ตัว (Perfomance)
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อม PM2.5 filter
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
เบาะนั่งไฟฟ้าคู่หน้า ระบบเบาะนวดไฟฟ้า ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้า ระบบระบายอากาศ (Perfomance)
เบาะคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง มีระบบ Memory Seat และระบบ Welcome Seat (Perfomance)
เบาะผู้โดยสารด้านหน้าปรับแบบไฟฟ้าได้ 4 ทิศทาง
เบาะหลังพับเบาะแยกได้แบบ 60:40
ระบบ V2L จ่ายไฟสูงสุด 3,300 W
 
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย
 
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ(Intelligent ACC) มาพร้อมกล้องติดรถยนต์ ADAS
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA) เป็นระบบควบคุมความเร็ว
ระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติ 3 รูปแบบ (IIP) ช่วยทำงานเต็มรูปแบบเพื่อเข้าจอด ทั้งแนวตรง แนวจอดเทียบข้าง และแนวเฉียง โดยเมื่อระบุช่องว่างที่จะนำรถเข้าจอดแล้ว รถจะทำการจอดด้วยตัวเองด้วยการควบคุมพวงมาลัย เบรก และคันเร่ง
ระบบช่วยถอยหลังอัตโนมัติ (ARA) ในขณะที่ขับรถต่ำกว่า 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถถอยหลังกลับได้ในระยะ 50 เมตรโดยอัตโนมัติ ในเส้นทางที่ถูกบันทึกไว้
กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา ประกอบไปด้วยกล้องที่มองได้รอบ 4 ตัว มีความละเอียดคมชัด 4 Megapixel โดยระบบจะรวมเอามุมมองภาพทั้ง 4 กล้องมาสร้างภาพที่มีมุมมอง 360 องศา เมื่อขับรถที่ความเร็ว 15 หรือ 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมงและตอนสตาร์ทรถ
ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติบนทางตรงและทางแยก (AEBI) ช่วยตรวจจับรถยนต์ทั้งทางตรงและทางแยก
ระบบช่วยเตือนและเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA&RCTB) เซนเซอร์ช่วยตรวจสอบจุดอับสายตาด้านหลังของตัวรถทั้งด้านซ้ายและด้านขวาของช่องทางเดินรถในขณะถอยหลัง เมื่อกำลังถอยหลังออกจากช่องจอด เซนเซอร์หลังของรถจะทำการเช็กด้านซ้ายและขวาของช่องจราจรและ ส่งสัญญาณเตือนด้วยเสียง หากผู้ขับขี่ยังเพิกเฉย ไม่หยุดรถ ระบบเบรกอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินจะเริ่มทำงานเพื่อหลีกเลี่ยงการชน
เซนเซอร์กะระยะ 6 จุดด้านหน้า และ 6 จุดด้านหลัง
ระบบช่วยเลี่ยงการเข้าใกล้รถใหญ่จากด้านข้าง (WDS)
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองพวงมาลัยให้รถอยู่ในเลน
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยแจ้งเตือนเมื่อรถกำลังออกนอกเลน
ระบบช่วยรักษาระยะให้อยู่กลางเลน (LCK) ระบบตรวจจับเส้นถนนและช่วยประคองรถให้อยู่กึ่งกลางเลน
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนในภาวะฉุกเฉิน (ELK) โดยหากมีการตรวจสอบพบรถอีกคันกำลังแล่นมา หรือมีรถแซงขึ้นมาจากอีกเลนหนึ่ง ระบบจะทำการแทรกแซงการทำงานมากขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน
ระบบช่วยชะลอความรุนแรงของการเกิดการชนซ้ำครั้งที่ 2 (SCM)
ระบบช่วยออกตัวบนทางชัน (HSA)
ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู (DOW) หลังจากจอดรถยนต์แล้ว ระบบจะแจ้งเตือนหากระบบตรวจพบเป้าหมายที่เสี่ยงต่อการชนหากเปิดประตูรถยนต์
ระบบตรวจความดันลมยาง (TPMS) โดยรถจะทำการวัดแรงดันลมยางอย่างต่อเนื่องและเตือนผู้ขับขี่หากมีแรงดันลมยางล้อใดลดลง
 
ORA 07 กับ 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่น LONG RANGE และรุ่น PERFORMANCE
 
สีรถภายนอกทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่
สีขาว
สีเทา
สีพิเศษ ม่วง (PERFORMANCE)
สีรถภายในทั้งหมด 2 สี ได้แก่
สีดำ
สีน้ำตาล (เฉพาะสีเทาและสีม่วงในรุ่น PERFORMANCE)
                                                                                                                 
ORA 07 รุ่น LONG RANGE อยู่ที่ 1,299,000 บาท และ ORA 07 รุ่น PERFORMANCE อยู่ที่ 1,499,000 บาท
 มาพร้อมกับเฉดสีภายนอกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Jade White) สีเทา (Amethyst Grey) และสีพิเศษ ม่วง (Crystal Purple) ในรุ่น PERFORMANCE เฉดสีภายในมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีน้ำตาล ซึ่งเบาะสีน้ำตาลจะเป็นสีพิเศษสำหรับรุ่น PERFORMANCE ซึ่งเลือกจับคู่ได้กับสีภายนอกสีม่วงและสีเทาเท่านั้น นอกจากนี้ ORA 07 ยังมาพร้อมการรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ 5 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือระยะทาง 180,000กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
ดูรายละเอียด ORA Good Cat
รวมดีล โปรโมชั่นรถยนต์ ORA ทุกรุ่น
รถยนต์ ORA ทุกรุ่น
 
BYD SEAL

BYD SEAL รถยนต์ไฟฟ้าที่เปิดตัว 3 รุ่นย่อย พร้อมกับให้ออปชันครบถ้วนเทียบเท่าทุกรุ่น และยังมีบุคลิกที่แตกต่างกันชัดเจน แม้ว่าหน้าตาจะเหมือนกันจนแยกไม่ออก! ยกเว้นล้อในรุ่นเริ่มต้น จุดเด่นอีกด้านคือ พลังมอเตอร์ไฟฟ้าที่เป็นกระแสมากในตอนนี้ว่า มีกำลังมากถึง 600 กว่าแรงม้า 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที ในราคาแค่ 1.599 ล้านบาทเอง! จึงกลายเป็นรถที่หลายคนคาดหวังว่ามันจะต้องเป็นรถสปอร์ตสมรรถนะสูงที่ขับดีเหมือนซูเปอร์คาร์ (หรือเปล่า) ทั้งที BYD ตั้งใจให้เน้นเป็นรถครอบครัวไฟฟ้าใช้งานทั่วไป แค่มีม้าเยอะเท่านั้นเอง
 
ขนาดและมิติตัวรถ 4,800 x 1,875 x 1,460 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อกว้างถึง 2,920 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 120 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,922/2,055/2,185 กิโลกรัม (ตามรุ่นย่อย)  ค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน(Cd ) ต่ำเพียง 0.219 โครงสร้าง e-platform 3.0 เอกสิทธิ์เฉพาะรถไฟฟ้าบีวายดี ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการติดตั้งแบตเตอรี่แบบ Cell To Body (CTB) พื้นที่เพิ่มขึ้นมิติความสูงและขนาดตัวรถเท่าเดิม แต่พื้นที่เบาะนั่งเพิ่มขึ้น ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น ทนทานต่อการบิดตัว ชุดประกอบโครงสร้างแบตเตอรี่ถูกออกแบบให้สามารถปิดผนึกเข้าได้โดยตรงกับโครงสร้างรถยนต์อย่างลงตัว เพื่อให้ประสิทธิภาพการปิดผนึก และ การเสริมความแข็งของตัวพื้นฐานใต้โครงสร้างรถยนต์เพิ่มขึ้น
 
สมรรถนะ SEAL
รุ่น Dynamic RWD มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์ หรือ 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ 61.44 kWh วิ่งได้ระยะสูงสุด 510 กิโลเมตร (NEDC Standard) ขับเคลื่อนล้อหลัง ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 225/50R18 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 7.5 วินาที ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ ด้านหลังแบบมัลติลิงค์
รุ่น Premium RWD มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 230 กิโลวัตต์ หรือ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ 82.56 kWh วิ่งได้ระยะสูงสุด 650 กิโลเมตร (NEDC Standard)ขับเคลื่อนล้อหลัง ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R19 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.9 วินาที ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ ด้านหลังแบบมัลติลิงค์
รุ่น AWD PERFORMANCE Dual Motor มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าคู่หน้าขนาด 160 กิโลวัตต์ หรือ 214 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร มอเตอร์ไฟฟ้าคู่หลังขนาด 230 กิโลวัตต์ หรือ 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร รวมทั้งระบบ 530 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ 82.56 kWh วิ่งได้ระยะสูงสุด 580 กิโลเมตร (NEDC Standard) ขับเคลื่อน 4 ล้อ ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/45R19 อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 3.8 วินาที ระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ ด้านหลังแบบมัลติลิงค์ โช้คอัพแบบ FSD ระบบดิสก์เบรกแบบ 4 พอร์ต พร้อมคาลิปเปอร์+ ดิสก์เบรกระบายความร้อนพร้อมรูระบายความร้อน ทุกรุ่นความเร็วสูงสุด 190  กม./ชม.(ล็อก)
 
ออปชันและเทคโนโลยี
ไฟหน้า LED แบบ Double-U Floating
หลังคากระจกพาโนรามิก 2 ชั้น เคลือบด้วย Silver-plated ช่วยให้การส่องผ่านแสงไม่เกิน 4.2% แสงแดดส่องผ่านได้ไม่เกิน 16% ขนาดใหญ่ถึง 1.9 ตรม. ให้มุมมองที่กว้าง 
ฝากระโปรงท้ายไฟฟ้า ระบบป้องกันการหนีบอัจฉริยะ ตั้งระดับความสูงได้ตามความต้องการ
เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง ปรับดันหลังได้ 4 ทิศทาง (Lumbar support) พร้อมระบบบันทึกตำแหน่ง (Memory Seat) และระบบ Welcome Seat (Premium/AWD Performance)
เบาะฝั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
มีระบบระบายอากาศและระบบอุ่นเบาะ เบาะนั่งหุ้มหนังแบบ Courtesy  (Premium/AWD Performance)
เบาะหลังปรับพับแยกได้แบบ 40/60
จอมาตรวัดคนขับ LCD ขนาด 10.25 นิ้ว
หน้าจอสัมผัสแบบหมุนได้ขนาด 15.6 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 1080P (1920x1080) ขอบจอบาง 5.9 มม. รองรับ CarPlay สำหรับอุปกรณ์ IOS หรือ Android Auto10
ระบบเครื่องเสียง Premium acoustics มาพร้อมลําโพง 12 ตัว HIFI Dynaudio Audio
ที่วางชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สายให้ถึง 2 ช่อง
ระบบกรอง PM2.5
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
ฟังก์ชั่น VTOL Function-2.2kW
กล้องมองรอบคัน 360 องศา
ลงทะเบียนเปิดใช้งาน BYD application เจ้าของรถจะสามารถควบคุมฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ จากระยะไกล ผ่าน BYD application ในโทรศัพท์มือถือได้
ระบบจ่ายไฟฟ้า V2L
 
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย
เรด้าห์แบบ Millimeter-Wave 5 ตำแหน่ง กล้องด้านหน้าสำหรับระบบ ADAS 1 ตำแหน่ง 
ระบบช่วยแจ้งเตือนการคาดการณ์การชนล่วงหน้า (PCW)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
ระบบแจ้งเตือนจุดอับสายตา (BSD)
ระบบช่วยเตือนวัตถุเคลื่อนผ่านขณะเปิดประตู (DOW)
ระบบช่วยเมื่อมีรถผ่านในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA-B)
ระบบช่วยรถเคลื่อนผ่านด้านหน้า (FCTA)
ระบบจดจำป้ายสัญญาณจราจร (TSR)
ระบบช่วยความคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC)
ระบบช่วยเปิดไฟสูงอัตโนมัติ (HMA)
ระบบชวยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (DAW)
ระบบกันสะเทือน ปีกนกคู่หน้า (Double Wishbone) มัลติลิงค์ (Five-Link)
 
สีตัวถัง
Seal Performance AWD
สีขาว Horizon Whte
สีดำ Quantum Black
สีเทา Space Grey
สีฟ้า Velocity Blue
Seal Premium
สีขาว Horizon Whte
สีดำ Quantum Black
สีเทา Space Grey
Seal Dynamic
สีขาว Horizon Whte
สีดำ Quantum Black
 
BYD SEAL ราคาดังนี้
 
AWD PERFORMANCE Dual Motor 530 HP Range 580 KM ราคา 1,599,000 บาท
Premium RWD 313 HP Range 650 KM ราคา  1,449,000 บาท
Dynamic RWD 204 HP Range 510 KM ราคา 1,325,000 บาท
 

Dynamic RWD

รับประกันแบตเตอรี่นาน 8 ปี หรือ 160,000 กม.
 
สิทธิพิเศษ RÊVER Care
ดอกเบี้ยเริ่มต้น 1.88% ดาวน์ 25% ผ่อนนาน 48 เดือน
ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. ระยะเวลา 1 ปี
บริการบำรุงรักษา ค่าแรง ค่าอะไหล่ 8 ปี หรือ 160,000 กม*
รับประกันตัวรถ (Waranty) 8 ปี หรือ 160,000 กม.*
รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.
บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง 8 ปีเต็ม*
สมาร์ทโฮมชาร์จเจอร์​ยี่ห้อ ABB พร้อมการติดตั้ง*
สายต่อพ่วงอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือ VTOL*
สายชาร์จเคลื่อนที่ AC Portable Charger
ค่าจดทะเบียนรถ*
พรมเข้ารูป​ กรอบป้ายทะเบียน ฟิล์มหน้าจอ*
 
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด
 
Deepal L07/S07
 
Deepal รถยนต์ไฟฟ้ามาพร้อม 2 รุ่นย่อยและ 2 แบบตัวถังคือ  Deepal L07 ซีดาน Fastback ราคา 1,329,000 บาท ดีไซน์กระจังหน้าแบบมินิมอล ตกแต่งด้วยไฟหน้า LED อัจฉริยะ รูปทรงสปอร์ตทันสมัย ห้องโดยสารแบบดิจิทัลเต็มรูปแบบพร้อมเซ็นเซอร์ครบวงจร  และอีกรุ่น Deepal S07 ราคา 1,399,000 บาท สไตล์ SUV ดีไซน์ทันสมัยสำหรับครอบครัวยกสูงคันใหญ่ (กว่า) คู่แข่งระดับเดียวกันในตอนนี้ มาพร้อมพลัง 258 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตัน-เมตรทั้งคู่ และฐานล้อเท่ากันเป๊ะ โดยเร็ว ๆ นี้ก็เตรียมจะตั้งโรงงานในไทยในคลายกังวลกันอีกด้วย
 
Deepal L07 Fastback ขนาดและมิติตัวรถ 4,820 x 1,890 x 1,480 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อกว้างถึง 2,900 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 150 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,820 กิโลกรัม
Deepal S07 SUVขนาดและมิติตัวรถ 4,750 x 1,930 x 1,625 มิลลิเมตร (ยาว x กว้าง x สูง) ระยะฐานล้อกว้างถึง 2,900 มม. ระยะความสูงใต้ท้องรถ 165 มิลลิเมตร น้ำหนักรถ 1,940 กิโลกรัม
 
แพลตฟอร์ม EPA1 ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรถยนต์แบรนด์ DEEPAL ซึ่งออกแบบบนพื้นฐานของการขับเคลื่อนล้อหลัง (RWD) พร้อมกระจายน้ำหนักได้สมดุลทั้ง 4 ล้อแบบ 50:50 จึงมีความปลอดภัยขั้นสูง ให้สมรรถนะดีเยี่ยม  เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน มาพร้อมระบบการจัดการแบตเตอรี่ดิจิทัลแบบ iBC (iBC Digital Battery  Management) ซึ่งผสานการทำงานระหว่างการวิเคราะห์จากตัวรถและระบบคลาวด์ให้ความแม่นยำทั้งการอ่านค่าสุขภาพแบตเตอรี่ การเตือน ความเสี่ยงต่างๆ และการจัดการระบบชาร์จ
 
สมรรถนะเดียวกัน
 
Deepal L07 และ S07 มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 190 กิโลวัตต์ หรือ 258 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 320 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่ 66.8 kWh รุ่น L07 ขับเคลื่อนล้อหลัง
 
Deepal L07 วิ่งได้ระยะสูงสุด 540 กิโลเมตร (NEDC Standard) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 5.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 170 กม./ชม. ยาง ขนาด 245/45 R19
Deepal S07 วิ่งได้ระยะสูงสุด 485 กิโลเมตร (NEDC Standard) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 180  กม./ชม. ล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว ลาย Moon White Blade ยาง ขนาด 255/45 R20
 
ทั้ง 2 รุ่นระบบกันสะเทือนหน้าแบบปีกนกคู่ ด้านหลังแบบมัลติลิงค์  พร้อมโหมด 4 ขับขี่ ECO, COMFORT, SPORT และ CUSTOMIZE ช่วงล่าง ด้านหน้าแบบอิสระ MacPherson Strut ด้านหลังอิสระ Multi-link แบบ H-Arm วัสดุ Aluminium

ออปชันและเทคโนโลยี
ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า Head-up Display
ระบบนำทางแบบ AR Navigation
หน้าจอสัมผัส Touchscreen ขนาด 15.6 นิ้ว
ระบบปรับทิศทางหน้าจอกลางอัตโนมัติ Auto Panning Sunflower Touchscreen
ที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
ระบบสั่งงานด้วยมือ Gesture Recognition Controlระบบแสดงภาพในห้องโดยสาร In-car Monitor
ระบบควบคุมรถผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์มือถือ Mobile Remote Control
รองรับ Apple CarPlay แบบไร้สาย Wireless
รองรับการอัปเดตซอฟต์แวร์ออนไลน์ Over The Air, OTA
ลำโพงบริเวณพนักพิงศีรษะ
ระบบเสียงรอบทิศทาง SONY ลำโพง 14 ตำแหน่ง
ระบบฟอกอากาศภายในห้องโดยสารแบบปล่อยประจุ Ion Generator Air Purifier
ระบบบอกระดับ PM 2.5 ภายในห้องโดยสาร
ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร ปรับเปลี่ยนได้ 64 สี Ambient Light
ระบบเลือกบรรยากาศในห้องโดยสาร Cabin Intelligent Scenario Modes
ช่องแอร์แบบซ่อน ปรับด้วยไฟฟ้า Electric Hidden Intelligent Air Ventilation
ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติแบบแยกอิสระ 2 โซน Dual-zone
โหมดลมธรรมชาติ Natural Wind Mode
ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
เบาะนั่งคนขับ ปรับด้วยไฟฟ้า 6 ทิศทาง พร้อมที่ปรับดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง Lumbar Support จำตำแหน่ง Memory Seat และ Welcome Seat
ระบายอากาศเบาะนั่งคู่หน้า Ventilation Seat
เบาะนั่งด้านหลัง แยกพับอิสระ 60 : 40
หลังคากระจก Panoramic Glass Roof แบบเคลือบสาร Heat Resistance กันความร้อน
ม่านบังแดดแบบทึบ เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า Electric Roof Sunshade
สปอยเลอร์หลังดีไซน์แบบ Sport
ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า Power Tailgate
ฝาท้ายยกขึ้นทั้งบาน แบบ Fastback
ล้ออัลลอย ขนาด 19 นิ้ว ลาย New Sport
ฝาท้าย เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า Power Tailgate
 
ระบบการช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบความปลอดภัย
ระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะ (Intelligent Driver Assistance System)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
ระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าพร้อม Stop & Go
ระบบช่วยเตือนเหากเสี่ยงต่อการชนด ้านหน้า (FCW)
ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
ระบบช่วยควบคุมรถให ้อยู่ในเลน (LKA)
ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่า (TJA)
ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
ระบบช่วยแจ้งเตือนมุมอับสายตา (BSD)
ระบบช่วยเตือนเมื่อต ้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
ระบบช่วยเตือนเหากเสี่ยงต่อการโดนชนด ้านหลัง (RCW)
ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนประตูขณะเปิด (DOW)
ระบบไฟสูงอัตโนมัติ (FAB)
ระบบช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า (SDW)
ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง (คู่หน้า-ด้านข้าง-ม่านนิรภัย)
กล้องมองภาพรอบคัน 360 องศา พร้อมฟังก์ชั่น Transparency Mode
ระบบบันทึกวิดีโอการขับขี่ Drive Video Recorder
 
Deepal S07 สีภายนอก มีให้เลือก 6 สี
สีขาว White
สีฟ้า Cyan
สีเทา Grey
สีดำ Black
สีส้ม Orange
สีเหลือง Yellow
 
ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 สี
สีดำ Black
สีส้ม Orange
 
Deepal L07 สีภายนอก มีให้เลือก 5 สี
สีขาว White
สีฟ้า Cyan
สีเทา Grey
สีดำ Black
สีน้ำเงิน Blue
 
ภายในห้องโดยสาร มีให้เลือก 2 สี
สีดำ Black
สีขาว White
 
สรุปคันไหนน่าซื้อสุด
หลังจากดูทั้งสเปคและข้อมูลทั้ง 3 รุ่นแล้ว ต้องแบ่งความเหมาะสมออกเป็นสไตล์ใครสไตล์มัน หากใครเป็นสายหรูหราพรเมียม เน้นความเโดดเด่นป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ต้อง "ORA 07" ใครเน้นสมรรถนะแรงดุดิบเถื่อน ๆ อย่างเดียวต้องจัด "BYD SEAL" และถ้าเป้นสายเน้นครอบครัวกับความอเนกประสงค์และเดินทางสะดวกสบายกว่าคงต้องไปจบที่ "Deepal S07" แต่ยังวัยรุ่นอยู่อาจต้องดู "Deepal l07" ที่ให้ภาพลักษณ์แบบรถยนต์ซีดานทันสมัย

อย่าลืมไปดูคันจริงของรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่นที่บอกเลยว่า หาก ORA 07 และ Deepal ประกาศราคาแล้ว อาจยิ่งตัดสินใจยากขึ้น แนะนำว่าให้ดูความต้องการที่จะซื้อไปใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นหลัก ส่วนราคานั้น คาดว่าไม่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับใครก็ตามที่ซื้อรถยนต์ในระดับนี้ครับ