เมื่อความต้องการของผู้คนในสังคมเปลี่ยนแปลงจากในอดีต สินค้า บริการ และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจึงต้องปรับตัวตาม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้คนในสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป และเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคนจำนวนมากได้อย่างครอบคลุม หนึ่งในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนยุคใหม่ได้ดี นั่นคือประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ แต่ประกันประเภทนี้มีลักษณะเป็นอย่างไร มีประเด็นน่าสนใจตรงไหนบ้าง เราไปดูพร้อม ๆ กัน
ประกันชีวิตออมทรัพย์ ส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างความคุ้มครองและผลประโยชน์ด้านการเงิน
ประกันชีวิตออมทรัพย์ คือประกันชีวิตที่บริษัทประกันภัยจะทำการจ่ายเงินให้หากผู้เอาประกันภัยมีชีวิตอยู่จนครบกำหนดสัญญา หรือหากผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาเอาประกันทางบริษัทประกันภัยจะทำการจ่ายให้กับผู้รับประโยชน์แทน ซึ่งผู้เอาประกันภัยสามารถเลือกประเภทของประกันภัยเพิ่มเติมได้ในหลายแผนที่เปิดช่องทางไว้ให้ เช่น การเพิ่มความคุ้มครองด้าน ประกันอุบัติเหตุ หรือ ประกันโรคร้ายแรง นั่นหมายความว่าผู้เอาประกันจะได้รับประโยชน์ทั้งจากความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์และประโยชน์จากเงินที่จะได้รับกลับคืน
จ่ายค่าเบี้ยไปไม่สูญเปล่า ได้รับกลับคืนหลากหลายรูปแบบ
โดยทั่วไปหากเราซื้อ ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ประกันชีวิตผู้สูงอายุ หรือแม้แต่ ประกันภัยโควิด ก็จะเป็นการซื้อประกันในรูปแบบจ่ายค่าเบี้ยเพื่อรับความคุ้มครอง หากไม่เกิดการเจ็บป่วย ไม่เกิดอาการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ไม่เกิดการสูญเสีย และไม่ได้กลายเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองด้านการรักษาพยาบาล หรือเงินชดเชยตามระบุในกรมธรรม์และไม่ได้รับเงินค่าเบี้ยคืนกลับมาด้วยเช่นกัน แต่ประกันแบบออมทรัพย์แตกต่างออกไปผู้เอาประกันมีโอกาสได้รับเงินคืนในรูปแบบต่าง ๆ กันไป เช่น เงินคืนรายปีตามรอบที่กำหนด เงินคืนเมื่อครบอายุสัญญา และการให้ความคุ้มครองโดยไม่ต้องจ่ายค่าเบี้ยรายปี สำหรับแผนประกันที่กำหนดตัวเลขสองตัวไม่เท่ากัน เช่น 15/5 ซึ่งมีความหมายว่าจ่ายค่าเบี้ยเพียง 5 ปี คุ้มครองยาวนาน 15 ปี ดูตัวอย่างได้จากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ Life Save Plus 15/5 จากธนาคารกรุงไทย
ได้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีสูงสุด 100,000 บาท ประกันชีวิตสะสมทรัพย์ให้ผลประโยชน์ทางภาษี มีความโดดเด่นกว่าการลงทุนประเภทอื่น ๆ ที่นอกจากจะไม่ได้รับประโยชน์ทางภาษีแล้วยังต้องเสียภาษีมากน้อยต่างกันไปอีกด้วย เช่น การออมเงินในบัญชีฝากประจำ การซื้อกองทุนรวม จึงเหมาะกับผู้ต้องการผลประโยชน์ด้านภาษี ด้านเงินออม และด้านความคุ้มครองในเวลาเดียวกัน
เน้นความครอบคลุม ไม่เน้นมูลค่าผลตอบแทน อย่างที่ทราบกันว่าประกันชีวิตสะสมทรัพย์คือการผสมผสานระหว่างความคุ้มครองและผลตอบแทนด้านการเงิน ดังนั้นเมื่อนำผลตอบแทนที่ได้จากประกันชีวิตสะสมทรัพย์ไปเปรียบเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น ๆ ก็จะเห็นว่าประกันชีวิตสะสมทรัพย์ให้ผลตอบแทนไม่สูงเท่า วงเงินคุ้มครองก็มักจะไม่สูงเท่าการซื้อประกันแบบเดี่ยว ๆ เช่นเดียวกัน ดังนั้นหากใครต้องการวงเงินคุ้มครองสูงกว่าประกันชีวิตสะสมทรัพย์และต้องการผลตอบแทนที่มากกว่า ควรโฟกัสไปที่การลงทุนประเภทอื่นและแผนประกันประเภทอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน
สภาพคล่องไม่ดีเท่าการออมเงินในบัญชีออมทรัพย์ ผู้ทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์จะไม่สามารถเบิกถอนเงินออกมาได้อย่างสะดวกสบายเหมือนฝากเงินไว้ในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ แต่จะสามารถเบิกถอนเงินออกมาได้จากการเวนคืนกรมธรรม์ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินคืนไม่เต็มจำนวน เนื่องจากถือเป็นการยกเลิกกรมธรรม์ก่อนครบอายุสัญญา ดังนั้นก่อนทำประกันชีวิตสะสมทรัพย์ควรคิดวางแผนให้ดีว่าเงื่อนไขความคุ้มครอง ค่าเบี้ยที่ต้องจ่ายตามงวด และความคุ้มครองตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดหรือไม่ ดีกว่าที่จะเวนคืนกรมธรรม์กลางคันทำให้ไม่ได้รับประโยชน์กลับมาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างที่ควรจะเป็น
อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนเริ่มรู้สึกสนใจ
ประกันชีวิตประเภทออมทรัพย์มากขึ้น ขอแนะนำให้ลองอ่านเงื่อนไขความคุ้มครอง เปรียบเทียบรายละเอียดจากเว็บไซต์ของธนาคารต่าง ๆ หรือปรึกษากับเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาที่สะดวกก่อนตัดสินใจ อย่างไรก็ตามสามารถเริ่มต้นที่ธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารที่ได้รับการสนับสนุนจากทางภาครัฐ มีความมั่นคงสูง หรือเริ่มต้นที่ธนาคารซึ่งเรามีบัญชีอยู่ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน
.png){kind=logo}
%20TPCC2.jpg)
