หลายคนทราบดีว่า ประกันชีวิต คือเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการเงินที่สำคัญ แต่รู้หรือไม่ว่ามันยังมีประโยชน์ในเรื่อง ภาษี ด้วย! วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจว่า ประกันชีวิตลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ และมีเทคนิคอะไรบ้างที่จะช่วยให้คุณซื้อประกันได้อย่างคุ้มค่า พร้อมรับสิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุด
ประกันชีวิตแต่ละแบบ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
โดยทั่วไปประกันชีวิตจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ซึ่งมีสิทธิลดหย่อนภาษีต่างกันไป
ประกันชีวิตทั่วไป
กลุ่มนี้ได้แก่: ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ, ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา, ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ และประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit-linked)
สิทธิลดหย่อน: สำหรับประกันชีวิต 3 แบบแรก (ตลอดชีพ, ชั่วระยะเวลา, สะสมทรัพย์) คุณสามารถ ลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่ากรมธรรม์ต้องมีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป
กรณีมีประกันชีวิตของคู่สมรส (ที่ไม่มีรายได้): สามารถนำเบี้ยประกันมาลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 10,000 บาท
ประกันชีวิตแบบควบการลงทุน (Unit-linked): เฉพาะส่วนค่าธรรมเนียมและความคุ้มครอง ที่นำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท (กรมธรรม์ต้องคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป) ส่วนที่นำไปลงทุนจะไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้
ประกันชีวิตบำนาญจุดเด่น: ประกันประเภทนี้ออกแบบมาเพื่อสร้างรายได้หลังเกษียณ โดยคุณจะจ่ายเบี้ยประกันไปจนถึงอายุที่กำหนด จากนั้นบริษัทประกันจะจ่ายเงินบำนาญให้เมื่อคุณเกษียณ
สิทธิลดหย่อน: สามารถ ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15% ของรายได้ แต่ไม่เกิน 200,000 บาท ที่สำคัญคือ สิทธิลดหย่อนสำหรับประกันชีวิตบำนาญนี้ เมื่อรวมกับสิทธิลดหย่อนเพื่อการเกษียณอื่น ๆ เช่น กองทุน RMF, SSF ต้องไม่เกิน 500,000 บาท
เทคนิคเลือกซื้อประกันวิธีลดหย่อนภาษีสูงสุดเพื่อให้คุณได้รับประโยชน์
ลดหย่อนภาษีด้วยประกันชีวิต ลองใช้ 3 เทคนิคนี้
คำนวณภาษีที่ต้องจ่าย: ก่อนอื่น คุณต้องรู้ว่าปกติคุณต้องจ่ายภาษีเท่าไหร่ โดยใช้สูตร “เงินได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน = เงินได้สุทธิ” จากนั้นนำ “เงินได้สุทธิ x อัตราภาษี = เงินภาษีที่ต้องจ่าย” หากมีรายได้หลายทาง ควรนำรายได้ทั้งหมดที่ไม่ใช่เงินเดือนมาคูณ 0.5% เพื่อประเมินภาษีที่ต้องจ่าย
ทำเช็กลิสต์สิทธิลดหย่อนภาษีทั้งหมดที่คุณมี: รวบรวมข้อมูลสิทธิลดหย่อนภาษีทั้งหมดที่คุณมี ไม่ว่าจะเป็นจากประกันชีวิต กองทุน RMF, SSF หรืออื่น ๆ เพื่อให้คุณเห็นภาพรวมและวางแผนการใช้สิทธิได้อย่างครบถ้วน
เลือกซื้อประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการ: การลดหย่อนภาษีเป็นเพียงผลพลอยได้ที่สำคัญ แต่หลักการสำคัญที่สุดคือการเลือกประกันที่ตรงกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของคุณ เช่น หากคุณต้องการวางแผนชีวิตหลังเกษียณ ควรเน้นประกันแบบบำนาญ หรือหากต้องการออมเงินไปพร้อม ๆ กับการได้รับความคุ้มครอง ประกันสะสมทรัพย์ก็เป็นทางเลือกที่ดี
การทำประกันชีวิต
ประกันสุขภาพแบบไหนดีไม่เพียงแค่ช่วยบริหารความเสี่ยงในชีวิต แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการวางแผนภาษีได้อย่างชาญฉลาด หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์
ประกันชีวิตยื่นลดหย่อนภาษีในการตัดสินใจเลือกซื้อประกันที่เหมาะสม