head prakardsod






























































แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - radnana

หน้า: [1] 2 3 ... 5
1


การเลือกบัญชีออมทรัพย์ที่ดีที่สุดอาจดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่จริงๆ แล้วมีปัจจัยหลายอย่างที่ควรพิจารณาเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดจากการออมเงินของคุณ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปสำรวจวิธีการเลือกบัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของคุณ

## 1. เข้าใจประเภทของบัญชีออมทรัพย์

ก่อนที่คุณจะเริ่มเลือกบัญชีออมทรัพย์ คุณควรเข้าใจประเภทต่างๆ ของบัญชีที่มีอยู่ โดยทั่วไปแล้วบัญชีออมทรัพย์สามารถแบ่งออกเป็นสองประเภทหลัก:

### 1.1 บัญชีออมทรัพย์ทั่วไป

บัญชีออมทรัพย์ทั่วไปมักมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า แต่มีความยืดหยุ่นสูง คุณสามารถฝากและถอนเงินได้ตามต้องการ โดยไม่มีข้อจำกัดมากนัก

### 1.2 บัญชีออมทรัพย์พิเศษ ออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูง

บัญชีออมทรัพย์พิเศษมักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า แต่จะมีข้อกำหนดในการฝากเงินขั้นต่ำหรือข้อจำกัดในการถอนเงิน คุณควรพิจารณาว่าคุณสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ได้หรือไม่

## 2. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย

อัตราดอกเบี้ยเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกบัญชีออมทรัพย์ คุณควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารต่างๆ เพื่อหาบัญชีที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบว่าอัตราดอกเบี้ยมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่ เพราะบางธนาคารอาจมีโปรโมชั่นพิเศษในช่วงเวลาหนึ่ง

## 3. ตรวจสอบค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับบัญชีออมทรัพย์อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ คุณควรตรวจสอบค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าธรรมเนียมการเปิดบัญชี ค่าธรรมเนียมการถอนเงิน และค่าธรรมเนียมการดูแลบัญชี เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมที่สูงเกินไป

## 4. ความสะดวกในการเข้าถึงและบริการลูกค้า

การเข้าถึงบัญชีออมทรัพย์ของคุณเป็นสิ่งสำคัญ คุณควรพิจารณาว่าธนาคารมีช่องทางการเข้าถึงที่สะดวกสบายหรือไม่ เช่น แอปพลิเคชันมือถือ เว็บไซต์ที่ใช้งานง่าย และบริการลูกค้าที่ดี หากคุณมีปัญหาหรือคำถาม คุณควรสามารถติดต่อธนาคารได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย

## 5. ความน่าเชื่อถือของธนาคาร

ความน่าเชื่อถือของธนาคารเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม คุณควรเลือกธนาคารที่มีชื่อเสียงดีและมีประวัติการให้บริการที่เชื่อถือได้ คุณสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือของธนาคารได้จากรีวิวของลูกค้า และข้อมูลจากหน่วยงานกำกับดูแลการเงิน

การเลือกบัญชีออมทรัพย์เงินฝากดอกเบี้ยสูง ที่ดีที่สุดสำหรับคุณนั้นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ตั้งแต่ประเภทของบัญชี อัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ความสะดวกในการเข้าถึง ไปจนถึงความน่าเชื่อถือของธนาคาร เมื่อคุณได้ทำการวิเคราะห์และเปรียบเทียบข้อมูลเหล่านี้แล้ว คุณจะสามารถตัดสินใจได้อย่างมั่นใจว่าบัญชีออมทรัพย์ไหนที่เหมาะสมกับความต้องการและเป้าหมายทางการเงินของคุณ

หากคุณกำลังมองหาบัญชีออมทรัพย์ที่ดีที่สุด อย่าลืมทำการวิจัยและเปรียบเทียบข้อมูลก่อนตัดสินใจ เพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุดจากการออมเงินของคุณ!



2

ทริคแต่งหน้าช่วยให้การแต่งหน้าง่ายขึ้น แต่ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการแต่งหน้ากลับทำให้แต่งหน้าไม่ติด ปัญหาผิวโทรมหน้าพังแบบไม่รู้ตัว แพ้เครื่องสําอาง  ใครที่เป็นมือใหม่หัดแต่งต้องเรียนรู้การลงรองพื้นไม่ให้เป็นคราบ ใช้ แป้งพัฟคุมมัน ให้เนียนสวยติดทน รวมทั้งเครื่องสําอางอื่น ๆ ดูแลเทคแคร์เสริมจุดเด่น กลบจุดด้อย ให้ผิวมีสุขภาพดี

ความเชื่อผิด ๆ ในการแต่งหน้า

- แสงไฟ สำหรับมือใหม่หัดแต่งหน้า อาจโดนแสงไฟหลอกตา จนเมคอัพพังไม่ตรงปก โดยเฉพาะแสงไฟสีส้มที่ทำให้สีสันบนใบหน้าไม่ตรงตามความเป็นจริง
- เลือกรองพื้นไม่ตรงผิว ไม่เนียน หน้าขาว คอดำ เวลาลงรองพื้นควรลงที่หน้า ลำคอและเนินอกให้เป็นสีเดียวดูสม่ำเสมอกัน ไม่ให้เกิดปัญหาหน้าลอย โดยเฉพาะหากใส่เสื้อสายเดี่ยว เปิดไหล่ หรือเกาะอก
- ใช้ลิปสติกหรือลิปกลอส แทนอายแชโดว์จะไม่เวิร์ค เพราะสีสันของลิปสติกไม่เข้ากับสีของดวงตา เนื้อของลิปสติกเหนียวและมันเกินไปด้วย
- ปัดมาสคาร่าทับซ้ำ ๆ หลายครั้ง ทำให้หนาเกินไป ทำให้ขนตาหนักและชี้ตกลงมา ควรดัดบริเวณโคนขนตาก่อน แล้วค่อยตามด้วยการปัดมาสคาร่าพอเหมาะ
- การดัดขนตาหลังปัดมาสคาร่าไปแล้ว เพราะเห็นว่าขนตายังไม่เด้ง ทําให้ขนตาติดกันเป็นแพ ทั้งเลอะและพังมาก ควรดัดขนตาให้พอใจก่อนปัดมาสคาร่า

ลำดับการแต่งหน้าผิดส่งผลอย่างไร
การใช้เครื่องสำอางมีลำดับการใช้ก่อนและหลัง จะต้องใช้อย่างถูกต้อง หากลำดับการใช้เครื่องสำอางผิดส่งผลให้แต่งหน้าไม่ติด แป้งไม่เกาะผิว เมคอัพไม่สวย เมื่อเป็นปัญหาอย่างนั้นควรเปลี่ยนลำดับโดยเริ่มใช้เครื่องสำอางชนิดน้ำก่อน ไล่เรียงตั้งแต่การลงโทนเนอร์หลังล้างหน้า เลือกสูตรให้ตรงกับสภาพผิว ช่วยปรับความสมดุลของผิวให้ชุ่มชื้น และช่วยให้สกินแคร์ต่าง ๆ ที่ใช้จะเห็นผลได้อย่างเต็มที่ ค่อย ๆ ทำไปทีละขั้นแล้วจึงทาแป้งฝุ่นแล้วรอให้เครื่องสำอางเซ็ตตัวเป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อย

เคล็ดลับการแต่งหน้าให้ถูกต้อง
โดยพื้นฐานจะต้องลงเครื่องสำอางชนิดน้ำก่อนให้ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ตามด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อเจล และเนื้อข้นอย่างรองพื้นเป็นลำดับถัดไป ดังนี้

- ล้างทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจดก่อน เป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม หน้าสะอาดและไม่มัน เพื่อให้เครื่องสำอางติดทนนานและไม่ก่อให้เกิดสิว
- ต่อจากนั้นใช้สกินแคร์บำรุงผิวก่อนแต่งหน้า โดยเฉพาะจุดที่ผิวแห้งมากเพื่อให้ผิวชุ่มชื้นมากขึ้น ตามด้วยครีมกันแดดมีค่า SPF 30 ขึ้นไปเพื่อปกป้องอันตรายจากรังสียูวี
- ถัดไปลงไพรเมอร์สำหรับปรับสภาพผิวหน้าให้เรียบเนียน ลดปัญหาหลุมสิวหรือรูขุมขนกว้าง อำพรางจุดบกพร่องต่าง ๆ จากนั้นตามด้วยไพรเมอร์ปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พอ เพื่อไม่ให้เวลาลงรองพื้นแล้วเกลี่ยยาก ตามด้วยเมคอัพเบสเพื่อปรับสภาพสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ช่วยแก้ไขรอยสิว รอยคล้ำ และจุดบกพร่องอื่น ๆ บนใบหน้า
- ส่วนการปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ บนใบหน้าใช้ได้หลายตัวเลือก เช่น รองพื้นให้การปิดปกได้ดีที่สุด, ซีซีครีมเหมาะกับผิวมัน, บีบีครีมเหมาะกับผิวแห้ง และคุชชั่นที่เป็นรองพื้นเนื้อบางเบาสูตรน้ำเหมาะสำหรับคนผิวธรรมดา เกลี่ยให้เรียบเนียนด้วยฟองน้ำหรือแปรงแต่งหน้าก็ได้
- หากริ้วรอยยังหลงเหลืออยู่ ควรใช้คอนซีลเลอร์แบบเนื้อครีมหนัก ๆ ก่อนรองพื้น หรือคอนซีลเลอร์เนื้อบางเบาลงหลังรองพื้น ใช้นิ้วมือค่อย ๆ เกลี่ยจนเรียบเนียนไปกับผิวหน้าช่วยปกปิดรอยต่าง ๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- ลงรองพื้นแล้วตามด้วย แป้งพัฟคุมมัน จากนั้นใช้แปรงแต่งหน้าปัดแป้งฝุ่นบาง ๆ ซ้ำอีกรอบก็พอ เขียนคิ้วที่เหมาะกับโครงหน้า ตามด้วยมาสคาร่าเพิ่มสีคิ้ว เขียนอายไลเนอร์และอายแชโดว์แต่งเติมสีสันรอบดวงตา บลัชออนแต่งแต้มพวงแก้มให้มีสีสันมากขึ้น ตามด้วย ลิปแมทติดทน เป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้เลย

สำหรับคนที่ยังไม่มีทักษะการแต่งหน้ามากนัก ไม่จำเป็นว่าต้องทำให้ครบทุกขั้นตอนทุกครั้งไป แต่ให้รู้ว่าควรจะลงอะไรก่อน-หลังตามขั้นตอน เพื่อให้หน้าออกมาสวยเป๊ะ พร้อมแนะนำเลือกเครื่องสำอางคุณภาพดีอย่างแป้งพัฟคุมมัน รองพื้นคุมมัน และลิปแมทติดทน จาก MAC Cosmetic เพิ่มสีสันให้ผิวสวยดูมีสุขภาพดี มั่นใจได้ในทุกวัน




3
  ผ้าอนามัย ไอเทมสำคัญสำหรับผู้หญิงทุกวัย ตั้งแต่เริ่มต้นเป็นสาวน้อยวัยใสจนกระทั่งถึงวัยหมดประจำเดือน ทั้งยังต้องใกล้ชิดกับจุดซ่อนเร้นแสนบอบบางซึ่งต้องการความอ่อนโยนและความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ การใช้ผ้าอนามัยอย่างถูกวิธีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
       ปัจจุบันมีผ้าอนามัยหลายแบบให้สาว ๆ เลือกใช้ตามความพึงพอใจและความเหมาะสมของช่วงเวลา เช่น ผ้าอนามัยแบบแผ่น ผ้าอนามัยแบบสอด ผ้าอนามัยแบบซักได้ ผ้าอนามัยแบบกางเกง และผ้าอนามัยแบบถ้วย เป็นต้น

ผ้าอนามัย แบบแผ่น     
เป็นที่นิยมโดยทั่วไปเนื่องจากหาซื้อง่าย ใช้สะดวก สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้หลากหลายกว่า มีทั้ง
ผ้าอนามัยกลางวัน ผ้าอนามัยแบบเย็น ควรซึมซับได้ดีและแห้งสบายผิว เพื่อรองรับความคล่องตัวของทุกกิจกรรม
ผ้าอนามัยกลางคืน เพื่อรองรับการซึมเปื้อนในช่วงกลางคืนจึงต้องซึมซับได้มากกว่าและมีขนาดยาวกว่าผ้าอนามัยแบบกลางวัน เช่น ผ้าอนามัยกลางคืน โซฟี แบบกระชับ หลับสนิทตลอดคืน หรือ elis ผ้าอนามัย สำหรับกลางคืน ซึ่งต่างมีความยาวถึง 42 เซนติเมตร ช่วยให้หลับสบายไม่ว่าจะนอนหงาย หรือนอนตะแคง
ผ้าอนามัยแบบมีปีก จะมีแถบกาวด้านข้างสำหรับแปะติดกางเกงชั้นใน เพื่อล็อกให้ผ้าอนามัยติดแน่นไม่ขยับเขยื้อน ทั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ประจำเดือนไหลซึมออกด้านข้าง

ผ้าอนามัยแบบสอด
เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่ชอบผ้าอนามัยแบบแผ่น หรือ Sport Girls ทั้งหลายซึ่งชื่นชอบการออกกำลังกายโดยเฉพาะว่ายน้ำ แม้จะมีวิธีการใช้ที่ยุ่งยากกว่าแต่ก็มีข้อดีไม่ใช่น้อย เนื่องจากสามารถใส่ลงน้ำได้ ไม่เสียดสีบริเวณขาหนีบ ให้ความคล่องตัว กระชับ ไม่หลุด ช่วยดูดซับประจำเดือนได้ตั้งแต่ภายในจึงไม่ต้องกังวลเรื่องการซึมเปื้อน ผ้าอนามัยชนิดนี้มีลักษณะเป็นแท่งสำหรับสอดเข้าไปในช่องคลอด ยกตัวอย่างเช่น ผ้าอนามัยโซฟี ซอฟต์ แทมปอน แบบเรกูลาร์ หรือโอ.บี. ผ้าอนามัยแบบสอด โปร คอมฟอร์ท เป็นต้น การใช้ ผ้าอนามัยแบบสอด ให้ปลอดภัยต่อจุดซ่อนเร้นควรปฏิบัติดังนี้
ควรทำความสะอาดมือทั้งก่อนและหลังการเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้ง
เปลี่ยนทุก 4 - 6 ชั่วโมง หากนานกว่านี้จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคส่งผลให้เกิดการติดเชื้อในช่องคลอดได้ ทั้งยังจะทำให้ประจำเดือนที่ไม่ถูกดูดซับเปรอะเปื้อนกางเกงชั้นในด้วย
ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอดขณะนอนหลับ ไม่ใช่ช่วงนั้นของเดือน และห้ามใส่ขณะมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะทำให้เอาออกยาก
หากทำผ้าอนามัยตกหล่น ห้ามนำกลับมาใช้โดยเด็ดขาด
เปลี่ยนผ้าอนามัยทันทีเมื่อขึ้นจากน้ำเพราะผ้าอนามัยแบบสอดไม่มีคุณสมบัติในการกันน้ำ
อย่างไรก็ตามการใช้ ผ้าอนามัยแบบสอด มีข้อเสียคือเสี่ยงต่อการติดเชื้อในกระแสเลือดหรือกลุ่มอาการท็อกซิกช็อก (Toxic Shock syndrome: TSS) เนื่องจากพิษของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งแม้จะเกิดขึ้นได้น้อยแต่ก็อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นกับผู้ที่ไม่ค่อยเปลี่ยนผ้าอนามัยจนทำให้เกิดการติดเชื้อและกระจายเข้าสู่กระแสเลือดในที่สุด

ผ้าอนามัยแบบกางเกง
เนื่องจากมีลักษณะเป็นกางเกงคล้ายผ้าอ้อมสำเร็จรูปของเด็กจึงเหมาะสำหรับการใช้เป็น ผ้าอนามัยกลางคืน เพราะสามารถโอบอุ้มสรีระได้ดี ไม่ว่าจะนอนท่าไหนก็หลับสบายไม่เปื้อน เช่น ผ้าอนามัยโซฟี แบบกางเกง หรือ elis ผ้าอนามัย แบบกางเกง เป็นต้น

สำหรับผ้าอนามัยแบบถ้วยและผ้าอนามัยแบบซักได้นั้นแม้จะยังไม่เป็นที่นิยมมากนักแต่ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในบ้านเรา ซึ่งผ้าอนามัยทั้งสองชนิดนี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและต้องดูแลรักษาความสะอาดเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตามสาว ๆ พึงระลึกไว้เสมอว่าการใช้ผ้าอนามัยทุกชนิดนั้นต้องทำอย่างถูกวิธีและอย่าลืมใส่ใจเรื่องความสะอาดเป็นสำคัญ เพื่อความปลอดภัยของจุดซ่อนเร้นที่แสนบอบบาง

เลือกช้อปผ้าอนามัยในแบบที่ต้องการได้อย่างสะดวกสบายผ่าน วัตสันออนไลน์ พร้อมรับ โปรวัตสัน สุดคุ้มมากมายที่  https://www.watsons.co.th/th/



4

เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ ใครที่มีปัญหาตาคล้ำ ตาแพนด้า ไม่สว่างใส แน่นอนว่าต้องมีตัวช่วยที่จะเปลี่ยนใต้ตาดำคล้ำให้กลับมาสว่างอีกครั้ง วิธีง่าย ๆ ไม่ยุ่งยากคือการใช้ ครีมบำรุงรอบดวงตา หมั่นทาเป็นประจำทุกวัน แต่เพราะครีมทาใต้ตามีหลายแบรนด์หลายสูตร ใครอยากจัดการใต้ตาหมองคล้ำ ลองมาดูกันว่าเลือกใช้ eye cream ยี่ห้อ ไหน ดี ถึงจัดการปัญหานี้ได้อย่างอยู่หมัด

eye cream ยี่ห้อ ไหน ดี ช่วยเปลี่ยนใต้ตาคล้ำให้กลับมาสดใส
1. Estee Lauder
Advanced Night Repair Eye Supercharged Gel-Creme Synchronized Multi-Recovery Eye Cream
บำรุงผิวรอบดวงตาขั้นสูงสุดด้วย FR-Defense™ เอกสิทธิ์เฉพาะจาก Estee Lauder ต่อต้านอนุมูลอิสระมากถึง 2 เท่า โดดเด่นเรื่องจัดการริ้วรอยใต้ดวงตาและถุงใต้ตา อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง และไม่ทำให้รูขุมขนอุดตัน เผยผิวใต้ดวงตาสว่างใส ไร้ริ้วรอย
2. La Mer
The Eye Balm Intense
หากพูดถึง ครีมบำรุงรอบดวงตา ยอดฮิต แน่นอนว่าต้องมีชื่อของ La Mer ครีมบำรุงเนื้อบาล์มมาพร้อมส่วนผสมสุดเข้มข้น มอบความชุ่มชื้น เพิ่มความยืดหยุ่นใต้ดวงตา คืนความกระจ่างใส ปลอบประโลมผิวใต้ตาที่ถูกทำร้าย ช่วยให้ผิวเรียบเนียน พร้อมลดเลือนริ้วรอยในกระปุกเดียว
3. Clinique
Even Better Eyes Dark Circle Corrector
บอกลาใต้ตาคล้ำ เปลี่ยนผิวใต้ตาที่หย่อนยานให้กระชับ ด้วยอายครีมที่อัดแน่นด้วยส่วนผสมจากชาเขียว วิตามินซี รากหม่อน มาพร้อม Cooling Tip Applicator ช่วยนวดผิวใต้ตาให้กระชับ ใช้งานง่าย ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ ผิวแพ้ง่ายใช้ได้
4. Bobbi Brown
Hydrating Eye Cream
หากกำลังตามหา ครีมทาใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ที่ตอบโจทย์เรื่องบางเบา ทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะ แนะนำให้เลือกกระปุกนี้ ครีมทารอบดวงตาเนื้อบางเบา มีส่วนผสมของอะโวคาโด ว่านหางจระเข้ โจโจบา เพิ่มความชุ่มชื้นยืดหยุ่น ปราศจากส่วนผสมของน้ำมันและแอลกอฮอล์ ใช้ได้แม้ผิวบอบบาง
5. Olay
Regenerist Retinol 24 Night Eye Cream
นอกจากโดดเด่นเรื่องครีมบำรุงผิวแล้ว Olay ยังคัดสรรส่วนผสมคุณภาพเยี่ยมมาออกแบบเป็นครีมบำรุงใต้ตาสำหรับกลางคืน ช่วยให้ผิวใต้ตากระจ่างใส ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนริ้วรอย จัดการร่องลึก ผ่านการทดสอบการระคายเคือง ผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้

ครีมบำรุงรอบดวงตาที่คัดมาบอกต่อกันนี้ เมื่ออ่านสรรพคุณแล้วเชื่อว่าน่าจะไขข้อสงสัยได้ว่าควรเลือก ครีมทาใต้ตา ยี่ห้อไหนดี เพราะแต่ละตัวมาพร้อมคุณสมบัติแตกต่างกัน ราคาต่างกัน จึงสามารถเลือกแบรนด์ที่ใช่และตัวที่ชอบมาใช้ได้ตามเหมาะสม และนอกจาก ครีมบำรุงรอบดวงตา แล้ว อย่าลืมพักผ่อนให้มาก ดื่มน้ำสะอาดวันละ 2 ลิตร เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผิวเนียนละเอียด กระจ่างใส ภาพรวมผิวหน้าจึงดูสว่างสดใสและอ่อนเยาว์




5

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น “ริ้วรอยแห่งวัย” ปัญหาสำคัญที่สาว ๆ ต่างกังวลใจก็เริ่มมาเยือน ผิวที่เคยดูเปล่งปลั่ง ชุ่มชื้น กลับหย่อนคล้อย มีริ้วรอยเหี่ยวย่น ไม่กระชับ นั่นเพราะร่างกายผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินตามธรรมชาติได้น้อยลง “เรตินอล” จึงถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อรับมือกับปัญหาดังกล่าวนี้ ดังนั้นผู้หญิงยุคใหม่จำเป็นต้องรู้ว่า เรตินอล ช่วยเรื่องอะไร สำคัญอย่างไรต่อผิวหน้า และควรเลือกใช้ เรตินอลยี่ห้อไหนดี

เรตินอลคืออะไร glassskin คือ
เรตินอล (Retinol) เป็นรูปแบบหนึ่งของวิตามินเอบริสุทธิ์ที่จัดอยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ (Retinoids) ซึ่งมีคุณสมบัติในการเร่งผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพพร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น กระจ่างใส รูขุมขนกระชับขึ้น ริ้วรอยจางลง ช่วยให้มี ผิวกระจก

เรตินอล ช่วยเรื่องอะไร บ้าง และสำคัญต่อผิวหน้าอย่างไร
ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่กระจ่างใสเรียบเนียน     
ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน จึงช่วยคืนความยืดหยุ่นให้กับผิว ส่งผลให้เส้นริ้วรอยร่องลึกจางลง โดยมีงานวิจัยจำนวนมากยืนยันถึงประสิทธิภาพของเรตินอลว่าสามารถลดเลือนริ้วรอยได้จริง
ช่วยควบคุมความมันบนใบหน้า
ลดการอักเสบของสิว
ลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี จึงสามารถลดเลือนจุดด่างดำบนผิวหน้า ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยจากสิวหรือฝ้าที่เกิดจากแสงแดดได้
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจึงรับมือกับปัญหาความร่วงโรยของผิวได้ดี
เมื่อทราบว่า เรตินอล ช่วยเรื่องอะไร และสำคัญต่อผิวหน้าของเราอย่างไรแล้วก็คงคาดเดาประโยชน์กันได้ไม่ยาก ด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของเรตินอลในการช่วยผลัดเซลล์ผิวนี่เองจึงส่งผลข้างเคียงต่อการใช้งานอยู่บ้าง แต่ทว่าสามารถเลี่ยงปัญหาดังกล่าวได้โดยการปฏิบัติดังนี้ 
หากยังไม่เคยใช้เรตินอลมาก่อนอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ทำให้ผิวแดง ลอก แสบ คัน หรือสิวขึ้นมากผิดปกติ ดังนั้นระยะแรกเริ่มควรใช้เรตินอลในปริมาณน้อยและไม่ถี่มากนัก เพื่อให้ผิวหน้าได้ปรับสภาพจากนั้นจึงค่อยเพิ่มความถี่ทีละน้อย เช่น สัปดาห์แรกใช้ 2 ครั้ง สัปดาห์ถัดมาเพิ่มเป็นวันเว้นวัน และใช้ทุกวันในที่สุด
ควรใช้เรตินอลในเวลากลางคืน อย่าลืมใช้กันแดดที่มีค่า SPF50+ และมีค่า PA++++ เป็นประจำทุกเช้า เนื่องจากเรตินอลจะทำให้ผิวไวต่อแสงมากขึ้น
หลังจากใช้เรตินอลแล้วให้ตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์เสมอเพื่อคืนความชุ่มชื้นให้กับผิว
ไม่ควรใช้เรตินอลคู่กับสกินแคร์ดูแลผิวหน้าที่มีส่วนผสมของวิตามินซี เพราะจะยิ่งทำให้ผิวแห้งมากขึ้น เสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะผิวบอบบางแพ้ง่าย

ควรเลือกใช้ เรตินอลยี่ห้อไหนดี
ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กลุ่มเรตินอลมากมายให้เลือกใช้ตามความพึงพอใจ จึงตอบได้ยากว่า เรตินอลยี่ห้อไหนดี ที่สุด นั่นเพราะแต่ละคนมีสภาพผิวหน้าต่างกัน สิ่งสำคัญคือควรเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง
ผิวหน้ามีริ้วรอยร่องลึกตามวัย ใช้ เรตินอลช่วยอะไร แบบไหนดี                                           
เรตินอลมีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เพื่อลดปัญหาความหย่อนคล้อยรวมทั้งริ้วรอยร่องลึกตามวัยอยู่แล้ว จะดีมากขึ้นหากเลือกใช้เรตินอลที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้น และความแข็งแรงให้แก่ผิวหน้า เพราะจะยิ่งทำให้ผิวอิ่มน้ำ ยืดหยุ่น แลดูอ่อนเยาว์ และช่วยลดความเสี่ยงต่อการระคายเคือง
ผิวหน้ามีปัญหาสิวและรูขุมขนกว้าง ใช้ เรตินอลช่วยอะไร แบบไหนดี
นอกจากเรตินอลจะมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวเก่าแล้วยังช่วยลดปัญหาสิวด้วย โดยผู้มีปัญหาสิวควรเลือกใช้เรตินอลที่มีความเข้มข้นขนาดพอเหมาะ เสริมประสิทธิภาพด้วยส่วนผสมต่าง ๆ เช่น Salicylic Acid ซึ่งสามารถควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้าพร้อมลดการอุดตันของรูขุมขน รวมทั้ง Niacinamide และวิตามินซี ที่ช่วยปรับสมดุลผิว ลดการอักเสบ และช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ผิวหน้าบอบบาง แพ้ง่าย ใช้ เรตินอลช่วยอะไร แบบไหนดี
ควรเลือกใช้เรตินอลสูตรอ่อนโยน ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ และสารอื่นใดที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ทั้งต้องระวังการใช้เรตินอลร่วมกับวิตามินซีด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเรตินอลได้จากเนื้อสัมผัสที่เหมาะกับผิว เช่น ผิวแห้งควรใช้เรตินอลแบบครีม ผิวธรรมดาถึงผิวผสมเหมาะกับแบบโลชั่น และเลือกใช้แบบเซรั่มหรือเจลสำหรับผิวมัน ที่ วัตสันออนไลน์ มีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเรตินอลให้เลือกช้อปลงตะกร้ามากมายหลากหลายแบรนด์ พร้อมรับสิทธิประโยชน์จาก โปรวัตสัน ทั้ง Buffet สินค้า 3 ชิ้น (คละได้) เหมาจ่ายสุดคุ้ม สินค้าแลกซื้อ และสินค้าราคาพิเศษ นอกจากนี้สมาชิกวัตสันคลับยังสามารถใช้พอยต์แลกรับส่วนลดได้ด้วย เพียงคลิก https://www.watsons.co.th/th/


6

   นับเป็นความโชคดีของสาว ๆ ในยุคปัจจุบันที่มี ผ้าอนามัย ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ครอบคลุมแทบจะทุกความต้องการ จนบางครั้งตัดสินใจยากว่าจะเลือกหยิบผ้าอนามัยแบบไหนลงตะกร้า เพื่อให้ง่ายต่อการบอกต่อจึงขอแบ่งผ้าอนามัยเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ ผ้าอนามัยสำหรับกลางวัน และ ผ้าอนามัยกลางคืน

ผ้าอนามัย กลางวัน
เพื่อรองรับทุกกิจกรรมระหว่างวันผ้าอนามัยที่ใช้จึงควรมีคุณสมบัติซึมซับได้ดี ให้ความคล่องตัว และแห้งสบายผิว ยกตัวอย่างเช่น
ผ้าอนามัยโซฟี คูลลิ่ง เฟรช ซูเปอร์แอ็กทิฟสลิม แบบมีปีก ซึ่งเป็น ผ้าอนามัยแบบเย็น ที่มีความยาว 25 ซม. ด้วยแผ่นคูลซึ่งเป็นเทคโนโลยีพิเศษช่วยให้รู้สึกเย็นสบายยาวนานมากยิ่งขึ้น ล็อกกลิ่น ลดความอับชื้น พร้อมสัมผัสที่นุ่มนวล อ่อนโยนต่อผิว
แต่หากต้องเผชิญหน้ากับความร้อนมาก ๆ หรือมีกิจกรรมต้องออกแดดกลางแจ้ง อย่าลืมเซฟความรู้สึกของตนเองในวันนั้นของเดือนด้วยความเย็นสุดขั้วจาก ผ้าอนามัยโซฟีคูลลิ่ง เฟรช เอ็กซ์ตร้า ซูเปอร์สลิม 0.1 ซึ่งเป็น ผ้าอนามัยแบบเย็น ขนาด 23 ซม. ทั้งบางทั้งเย็นขั้นกว่าจึงช่วยให้สบายตัวขั้นสุด เนื่องจากมีนวัตกรรมแผ่นเอ็กซ์ตร้า คูล ให้พลังความเย็นเหนือระดับจึงรู้สึกสดชื่นได้อย่างเต็มที่และยาวนานมากขึ้น ช่วยล็อกกลิ่น ลดความอับชื้น หมดปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึมซับเร็ว แห้งสบาย คล่องตัวทุกสถานการณ์ ทั้งยังให้สัมผัสนุ่ม สวมใส่สบายไม่อึดอัดเพราะบางเฉียบเรียบเนียนเป็นหนึ่งเดียวกับกางเกงชั้นใน ทั้งนี้ผ้าอนามัยแบบเย็นของโซฟีทุกชนิดจะห่อแยกชิ้นจึงสามารถเก็บความเย็นได้นานกว่า
สำหรับสาว ๆ ที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายตลอดวัน เดี๋ยวยืน เดี๋ยวเดิน เดี๋ยวนั่ง ขอแนะนำให้ลอง elis ผ้าอนามัย แฟรี่ วิงส์ ขนาด 25 ซม. โดดเด่นด้วยพาวเวอร์กลูซึ่งเป็นแถบกาวชนิดพิเศษช่วยให้ผ้าอนามัยติดแน่น ไม่ห่อตัว ไม่เลื่อนหลุดง่าย จึงโอบกระชับสรีระได้ดี พร้อมให้สัมผัสนุ่มสบายทุกการเคลื่อนไหว ทั้งยังมีผิวหน้าแบบ Active Dot ที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการซึมซับ การระบายอากาศ ลดความอับชื้น และลดพื้นที่สัมผัสกับผิวส่งผลให้ผิวแห้งสบายมากขึ้น แถมตอบโจทย์สาว ๆ ที่ใช้ผ้าอนามัยแบบมีปีกแล้วมักจะเจอปัญหาการเสียดสีบริเวณขาหนีบ นั่นเพราะเอลิส แฟรี่ วิงส์ ถูกออกแบบให้มีปีกสัมผัสนุ่ม อ่อนโยน และไม่ระคายเคืองต่อผิว มาพร้อมกับลายหมีรีลัคคุมะสุดน่ารัก

ผ้าอนามัยกลางคืน
เพื่อการนอนหลับได้อย่างสบายตัว ผ้าอนามัยกลางคืน จึงควรมีคุณสมบัติในการซึมซับได้มาก แห้งเร็ว และมีขนาดยาวกว่าผ้าอนามัยแบบกลางวันเพราะต้องรองรับสรีระทุกท่วงท่าการนอน เช่น
ผ้าอนามัยโซฟี แบบกระชับ หลับสนิทตลอดคืน ด้วยความยาว 42 ซม. จึงช่วยลดการซึมเปื้อนด้านหลัง พร้อมนวัตกรรมแผ่นโอบกระชับ 3 มิติ ซึ่งสามารถปรับให้แนบเข้ากับสรีระขณะนอนหลับได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะพลิกตัวหรือเปลี่ยนท่าผ้าอนามัยก็จะล็อกประจำเดือนไม่ให้ไหลเปรอะเปื้อน ทั้งยังมีรูซึมซับกระจายอยู่ทั่วทั้งแผ่นจึงแห้งเร็วกว่า ช่วยให้หลับสบายตลอดคืน
 หากต้องการความสดชื่น เย็นสบายผิว ขอแนะนำโซฟี คูลลิ่ง เฟรช ผ้าอนามัยแบบเย็น สำหรับกลางคืน ขนาด 42 ซม. ซึ่งให้ความรู้สึกเย็นสบายตั้งแต่เริ่มใส่ นอกจากเทคโนโลยีแผ่นคูลที่ช่วยล็อกกลิ่น ลดความอับชื้นแล้ว ยังมีแบ็กการ์ดกว้างป้องกันการซึมเปื้อนด้านหลังได้เป็นอย่างดี จะมามากแค่ไหนก็มั่นใจว่าเอาอยู่
สำหรับสาว ๆ ที่อยากได้ความมั่นใจขั้นสุด ต้องลอง elis ผ้าอนามัย แบบกางเกง เซฟ ไนท์ ที่ให้ความรู้สึกสบายตัวไม่ต่างจากการสวมกางเกงชั้นใน ด้วยขอบเอวนุ่มและยืดหยุ่นดี มีแผ่นซึมซับทรงนาฬิกาทรายช่วยโอบกระชับสรีระด้านหลังเป็นพิเศษ ดังนั้นไม่ว่าจะพลิกตัวท่าไหนก็มั่นใจได้ว่าไม่ซึมเปื้อนแน่นอน อีกทั้งยังหอมผ่อนคลายช่วยให้หลับสบายด้วยกลิ่นรีแล็กซ์ ลาเวนเดอร์

เลือกช้อป ผ้าอนามัย แบบที่ต้องการได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นผ่าน วัตสันออนไลน์ พร้อมรับ โปรวัตสัน สุดคุ้ม เช่น Buffet สินค้า 3 ชิ้น ราคาพิเศษ (คละได้) ใช้พอยท์แลกรับส่วนลด ทั้งยังมีสินค้าแลกซื้อและสินค้าราคาพิเศษอีกมากมาย เพียงคลิก https://www.watsons.co.th/th/





7

หากพูดถึงอาชีพยอดนิยมในกลุ่มคนรักการทำอาหารที่สามารถทำเป็นงานหลักก็ได้หรือจะทำเป็นงานเสริมก็ดี เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงการเปิดขายอาหารออนไลน์ จุดเด่นคือไม่ต้องจ้างแรงงาน ไม่ต้องเหนื่อยจัดการหน้าร้าน แต่การจะทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก มีการสั่งซื้ออย่างต่อเนื่อง แน่นอนว่าต้องมีแพลตฟอร์มซื้อขายเป็นตัวกลาง สำหรับแพลตฟอร์มยอดฮิตต้องยกให้กับ แกร็บฟู้ดร้านค้า แอปพลิเคชันที่รวบรวมร้านอาหารเอาไว้มากมาย อยู่ที่ไหนก็สั่งได้ แถมของอร่อยยังมาส่งถึงหน้าบ้าน

สมัครแกร็บร้านค้าเสียค่าอะไรบ้าง และต้องเตรียมตัวอย่างไร
เลือกประเภทอาหารที่ต้องการขาย
ขั้นตอนสำคัญในการเริ่มขายอาหารออนไลน์คือการเลือกเมนูที่จะขาย แนะนำให้เลือกเมนูที่ถนัด ทำง่าย ทำออกมาแล้วรสชาติดี โดยควรให้คนรอบข้างทดลองชิมก่อนเพื่อให้ได้สูตรที่แน่นอน รสชาติเหมือนกันทุกครั้งที่ทำ ที่สำคัญต้องคุ้มทุน เพื่อให้ได้กำไรคุ้มค่า
ตั้งชื่อร้านเรียกทรัพย์  ค้าขายบูชาอะไรดี
ชื่อร้านที่ดีควรเป็นชื่อร้านที่คนจำง่าย เขียนง่าย เพื่อที่เวลากดค้นหาใน Grab จะค้นเจอได้เร็ว นอกจากนี้ชื่อร้านควรอ่านแล้วทราบทันทีว่าขายเมนูประเภทใด อย่าลืมตั้งชื่อให้เรียกทรัพย์ เป็นสิริมงคล หรือมีตัวเลขมงคลตามความเชื่ออย่างเลข 8 หรือ 9
ถ่ายภาพอาหารให้สดใหม่น่ารับประทาน
หลังจาก ตั้งชื่อร้านเรียกทรัพย์ แล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับการถ่ายภาพเมนูต่าง ๆ ที่ควรถ่ายให้ดูสดใหม่ น่ารับประทาน มองเห็นชัดเจน ที่สำคัญต้องตรงปก เมื่อลูกค้าสั่งแล้วจะได้ไม่ผิดหวังและยังเพิ่มโอกาสสั่งซ้ำเป็นลูกค้าประจำอีกด้วย
เตรียมบรรจุภัณฑ์ให้พร้อม
สิ่งต้องให้ความสำคัญมาก ๆ ในการขายอาหารออนไลน์คือบรรจุภัณฑ์ที่ต้องเหมาะสมกับเมนูนั้น ๆ จึงควรเตรียมบรรจุภัณฑ์ให้พร้อม เช่น กล่องใส่อาหาร ถ้วยน้ำจิ้มแบบมีฝาปิด ฯลฯ ทดลองบรรจุอาหารว่าสามารถใส่ได้พอดี ไม่ซึม ฝาไม่หลุดง่าย นอกจากทำให้อาหารดูน่ารับประทานเป็นสัดส่วนแล้วยังทำให้ลูกค้าประทับใจ
สมัครผ่าน GrabMerchant
เริ่มต้นเปิดร้านด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน GrabMerchant กรอกรายละเอียดตามขั้นตอนและเซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ สะดวกสบายไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญใครที่สงสัยว่า สมัครแกร็บร้านค้าเสียค่าอะไรบ้าง บอกเลยว่าหมดห่วงเพราะไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แถมจัดการเปิดปิดร้านได้ง่ายผ่านแอปพลิเคชัน จัดการร้านได้เองด้วยปลายนิ้ว

จะเห็นว่าการสมัคร แกร็บฟู้ดร้านค้า ผ่าน GrabMerchant ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ จึงไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอน ศึกษาวิธีการเปิดร้าน ตั้งชื่อร้าน ถ่ายภาพอาหารให้ดูสดใหม่น่ารับประทาน และร่วมกิจกรรมแคมเปญต่าง ๆ เพื่อให้ร้านเป็นที่รู้จักมากขึ้น ที่สำคัญยังเปิดปิดร้านได้แบบง่าย ๆ ยืดหยุ่นเรื่องเวลา เหมาะกับการทำเป็นอาชีพหลักและอาชีพเสริม




8


นักลงทุนมือใหม่ที่กำลังมองหาช่องทางสร้างผลตอบแทนให้กับเงินลงทุนหรือพยายามสร้าง Passive Income นั้น สามารถเลือกวิธีการลงทุนได้ เพราะในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนอย่างหลากหลาย เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนได้อย่างตรงจุดที่สุด
แต่สิ่งสำคัญที่นักลงทุนมือใหม่ต้องพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกลงทุนคือความเสี่ยงของการลงทุนแต่ละประเภท โดยต้องคำนึงเสมอว่าการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงมักมีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกัน (High Risk High Return)

ลงทุนอะไรดีความเสี่ยงน้อย
สำหรับผู้ที่เริ่มลงทุนใหม่ ๆ หรือที่เรียกว่า “นักลงทุนมือใหม่” มักกังวลกับการลงทุนว่าอาจจะทำให้เงินออมที่มีอยู่สูญไป ดังนั้นจึงทำให้เกิดคำถามขึ้นเสมอว่า นักลงทุน มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี หรือควรเลือก ลงทุนอะไรดีความเสี่ยงน้อย
ทั้งนี้ หากเรียงลำดับความเสี่ยงในการลงทุนแล้วจะพบว่า การฝากเงินในธนาคารและการซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะมีความเสี่ยงน้อยที่สุดหรือแทบไม่มีความเสี่ยงที่จะสูญเสียเงินต้นเลย โดยเฉพาะการฝากเงินที่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท เพราะจะได้รับการคุ้มครองจากสถาบันคุ้มครองเงินฝากด้วย แต่กระนั้นก็ต้องยอมรับว่าผลตอบแทนการฝากเงินหรือซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะได้ไม่สูงเท่ากับการลงทุนประเภทอื่น บางครั้งหากเทียบกับอัตราเงินเฟ้อของประเทศแล้วจะพบว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินหรือซื้อพันธบัตรรัฐบาลจะได้รับต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อด้วย
นั่นจึงทำให้หลายคนที่ต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้นแต่ไม่เสี่ยงมากเลือกการลงทุนด้วยการซื้อ “สลากออมสิน” หรือ “สลากออมทรัพย์” จองสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่ออกโดยสถาบันการเงินของรัฐ และมีผลตอบแทนเป็นเงินรางวัลจากการถูกสลากเหมือนกับการซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเพิ่มเติมจากดอกเบี้ย ซึ่งการลงทุนแบบนี้ถือว่าไม่เสี่ยงต่อการสูญเงินต้น
การทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ เป็นอีกทางเลือกในการลงทุนซึ่งเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่ต้องการความเสี่ยงมากเช่นกัน และยังสามารถลงทุนได้แม้จะมีงบประมาณไม่มาก เพราะการทำประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จะมีทางเลือกให้จ่ายเบี้ยประกันเป็นรายเดือนได้ ทำให้นักลงทุนมือใหม่สามารถแบ่งรายรับในแต่ละเดือนมาจ่ายเบี้ยประกันสะสมไว้เหมือนกับการฝากเงินแบบสะสมทรัพย์ แต่ได้รับความคุ้มครองชีวิตในกรณีที่มีเหตุให้ต้องเสียชีวิตระหว่างที่กรมธรรม์ยังมีความคุ้มครองอยู่ แต่หากถือกรมธรรม์ไว้จนครบกำหนดก็จะได้รับเงินก้อนตามสัญญาพร้อมผลตอบแทนซึ่งส่วนใหญ่จะสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพย์ในธนาคาร
กองทุนรวม เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่ยังไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการลงทุนด้วยตนเอง การลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีผู้จัดการกองทุนซึ่งเป็นมืออาชีพช่วยบริหารเงินลงทุนให้และมีการจ่ายค่าตอบแทนให้กับนักลงทุนตามจำนวนหน่วยลงทุนที่ถือไว้ แม้ว่าการลงทุนผ่านกองทุนรวมจะมีความเสี่ยงสูงกว่าการฝากเงินในธนาคารหรือการซื้อพันธบัตรรัฐบาล แต่ก็สามารถเลือกประเภทของกองทุนรวมให้เหมาะกับความเสี่ยงที่รับได้ โดยมีทั้งกองทุนรวมตลาดเงิน, กองทุนรวมหุ้น, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนรวมน้ำมัน เป็นต้น
แต่หากสามารถรับความเสี่ยงสูงได้ เพื่อหวังได้รับผลตอบแทนที่สูงก็สามารถเลือกลงทุนในหุ้น โดยซื้อผ่านตลาดหลักทรัพย์, ลงทุนในทองคำ, น้ำมัน หรือเงินสกุลดิจิทัลได้เช่นเดียวกัน แต่กระนั้นก็ควรต้องศึกษาสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่จะลงทุนให้ดีก่อน

ต้องการลงทุนในหุ้นกรณีเป็นนักลงทุน มือใหม่ควรลงทุนอะไรดี
ปัจจุบันมีช่องทางการลงทุนในตลาดหุ้นแบบ Dollar Cost Averaging (DCA) คือการทยอยลงทุนแบบสะสมในหุ้นตัวเดิมที่เลือกไว้ทีละน้อยแต่สม่ำเสมอ เช่น เลือกที่จะลงทุนในหุ้นตัวเดิมเดือนละ 1,000 บาท สะสมทุกเดือน ซึ่งเป็นการลงทุนที่ใช้งบไม่มากและยังช่วยกระจายความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาได้ด้วย
ชําระภาษีออนไลน์ https://krungthai.com/th/personal/cash-management/payment-and-top-up/64



9
ค้นหาคำตอบการ โอนเงินไปต่างประเทศ ผ่านแอปสะดวกและรวดเร็วจริงหรือไม่ ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมอย่างไร

      การโอนเงินระหว่างประเทศ ก่อนหน้านี้อาจจะดูเหมือนยุ่งยาก เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ 3 - 5 วัน ทั้งยังจะต้องไปทำธุรกรรมที่ธนาคารหรือตัวแทนรับโอนเงินที่มีใบอนุญาตเท่านั้น เช่น MoneyGram และ Western Union ซึ่งแต่ละแห่งต่างมีอัตราแลกเปลี่ยนและค่าธรรมเนียมไม่เท่ากัน ดังนั้นจึงควรเปรียบเทียบความคุ้มค่าก่อนโอน นอกจากนี้ผู้โอนยังต้องแจ้งวัตถุประสงค์การโอนทุกครั้งที่ทำรายการเนื่องจากเป็นหลักเกณฑ์การ โอนเงินไปต่างประเทศ ของธนาคารแห่งประเทศไทย และหากเป็นผู้รับเงินโอนจากต่างประเทศมากกว่า 50,000 USD จะต้องใช้เอกสารประกอบการรับเงินตามวัตถุประสงค์ของเงินโอนด้วย

       ปัจจุบันการโอนเงินไปต่างประเทศ ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยการใช้รหัสธนาคารหรือ Swift Code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารต่าง ๆ โดยการ โอนเงินแบบ swift code จะช่วยให้การรับหรือ การโอนเงินระหว่างประเทศ สามารถดำเนินการผ่านบัญชีที่เปิดในประเทศไทยได้โดยตรงจึงคล่องตัวและรวดเร็วกว่า

         สำหรับการ โอนเงินไปต่างประเทศ swift code คือรหัสที่ต้องใช้เพื่อระบุธนาคารและสาขาของธนาคาร เนื่องจากเป็นการโอนเงินระหว่างธนาคารและข้ามประเทศจึงต้องปฏิบัติตามมาตรฐานขององค์การระหว่างประเทศ โดยมี SWIFT หรือ Society for Worldwide Interbank Financial Telecommunication เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบการลงทะเบียนรหัส ซึ่งนอกจากจะเรียกว่า Swift Code แล้ว รหัสนี้ยังถูกเรียกอีกชื่อว่า BIC Code หรือ Bank Identifier Code ด้วย

               ด้วยความรวดเร็ว ง่าย และคล่องตัว ธุรกรรมการเงินออนไลน์จึงเป็นที่นิยมในปัจจุบัน รวมทั้งการ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สามารถทำได้ด้วยตนเองเพียงแค่ต้องระบุ Swift Code ในระหว่างการกรอกข้อมูลเพื่อโอนเงิน โดยสอบถามรหัส Swift Code ได้ที่ธนาคารเจ้าของแอป เว็บไซต์ของธนาคาร และเว็บไซต์ที่รวบรวม Database เช่น www.swiftcodetoday.com

โอนเงินผ่าน swift code ใช้เวลากี่วัน

          การ โอนเงินแบบ swift code ผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น ปลายทางจะได้รับเงินรวดเร็วแบบเรียลไทม์ตั้งแต่ 2 วินาที จนถึง 3 วันทำการ ซึ่งระยะเวลาจะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับประเทศปลายทางด้วย ยกตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชัน Krungthai NEXT

           นอกจากแอปพลิเคชันจะช่วยให้การโอนเงินรวดเร็วทันใจแล้ว ค่าธรรมเนียมบัตรเดบิต ค่าธรรมเนียมโอนเงินต่างประเทศ ยังถูกกว่าทำธุรกรรมผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารอีกด้วย ซึ่งโดยทั่วไปธนาคารมักจะคิดค่าธรรมเนียมรับเงินโอนจากต่างประเทศเฉลี่ย 0.25% ของยอดเงินที่โอนมา ต่ำสุด 200 บาท สูงสุด 500 บาท และอาจจะมีค่าธรรมเนียมที่ถูกหักเพิ่มเติมระหว่างธนาคารตัวกลางหรือธนาคารต้นทาง สำหรับการโอนเงินไปต่างประเทศค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 300 - 500 บาท ต่อรายการและอาจจะมีการบวกเพิ่ม 0.05% ของยอดเงินโอน แต่การ โอนเงินต่างประเทศผ่านแอพ จะมีค่าธรรมเนียมถูกกว่า ยกตัวอย่างเช่น  การโอนเงินแบบ Swift Code ผ่าน Krungthai NEXT มีค่าธรรมเนียม Charge Ben 300 บาท Charge Our 1,100 - 1,500 บาท หากโอนผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารค่าธรรมเนียม Charge Ben 400 บาท Charge Our 1,200 - 1,600 บาท ทั้งนี้แต่ละธนาคารจะมีการกำหนดค่าธรรมเนียม อัตราแลกเปลี่ยน และโปรโมชั่นที่แตกต่างกัน เพื่อความคุ้มค่าจึงควรเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมก่อนใช้บริการทุกครั้ง

         การโอนเงินไปต่างประเทศผ่านแอปพลิเคชันสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลาจึงสะดวกรวดเร็วไม่ต้องรอนาน อีกทั้งค่าธรรมเนียมการโอนยังถูกกว่า จึงคุ้มค่าทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย



10


การเลือกเลขทะเบียนรถมงคลเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญ เพราะเชื่อว่ามันสามารถนำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับชีวิตได้ ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เทคนิคในการเช็คเลขทะเบียนรถมงคลแบบง่ายๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้

ทำไมถึงต้องเลือกเลขทะเบียนรถมงคล?

เลขทะเบียนรถมงคลถือเป็นตัวแทนของโชคลาภและความสำเร็จในชีวิต โดยเฉพาะในวัฒนธรรมไทยที่มีความเชื่อเกี่ยวกับศาสตร์ตัวเลข การเลือกเลขทะเบียนที่ดีสามารถช่วยเสริมสร้างพลังบวกและลดความเสี่ยงในชีวิตประจำวันได้

เทคนิคการเช็คเลขทะเบียนรถมงคล
### 1. การใช้ศาสตร์ตัวเลข

ศาสตร์ตัวเลขเป็นวิธีการที่หลายคนใช้ในการวิเคราะห์เลขทะเบียนรถมงคล โดยสามารถใช้หลักการดังนี้:

- **รวมตัวเลข**: นำตัวเลขในทะเบียนมารวมกัน เช่น ทะเบียน 1234 จะได้ 1+2+3+4 = 10 จากนั้นนำ 1+0 = 1 ซึ่งเลข 1 ถือเป็นเลขที่ดี
- **ดูความหมายของเลข**: ศึกษาความหมายของเลขแต่ละตัว เช่น เลข 8 หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง เลข 9 หมายถึงความสำเร็จ

### 2. เช็คจากแหล่งข้อมูลออนไลน์

ในยุคดิจิทัลนี้ การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถมงคลสามารถทำได้ง่ายมาก ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่มีให้บริการ เช่น:

- **เว็บไซต์ทำนายเลขทะเบียน**: มีหลายเว็บไซต์ที่ให้บริการทำนายเลขทะเบียนรถมงคล โดยสามารถกรอกเลขทะเบียนที่ต้องการเช็คแล้วดูผลลัพธ์
- **แอปพลิเคชันมือถือ**: มีแอปพลิเคชันที่ช่วยในการเช็คเลขทะเบียนรถมงคลได้อย่างสะดวกสบาย

### 3. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

หากคุณไม่มั่นใจในการเลือกเลขทะเบียนรถมงคล สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านศาสตร์ตัวเลขหรือหมอดูที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้ เพื่อให้ได้คำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตัวคุณ

## ข้อควรระวังในการเลือกเลขทะเบียนรถมงคล

- **หลีกเลี่ยงเลขที่มีความหมายไม่ดี**: เช่น เลข 4 ที่บางคนเชื่อว่าเป็นเลขที่ไม่ดี ควรหลีกเลี่ยงหากไม่ต้องการเสี่ยง
- **ไม่ควรเลือกเลขตามความชอบเพียงอย่างเดียว**: ควรพิจารณาความหมายของเลขและความเชื่อที่เกี่ยวข้องด้วย

การเช็คเลขทะเบียนรถมงคลไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยเทคนิคที่เราได้แนะนำไปข้างต้น ทุกคนสามารถเลือกเลขทะเบียนที่เหมาะสมและนำโชคลาภมาให้กับชีวิตได้ หากคุณสนใจที่จะเลือกเลขทะเบียนรถมงคล อย่าลืมใช้เทคนิคเหล่านี้ในการตัดสินใจ

หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเลขทะเบียนรถมงคลหรือศาสตร์ตัวเลข สามารถติดตามเราได้ที่เว็บไซต์ของเราหรือสอบถามผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อไม่พลาดข้อมูลดีๆ ที่จะช่วยเสริมโชคลาภให้กับคุณ!

ด้วยการใช้เทคนิคเช็คเลขทะเบียนรถมงคลแบบง่ายๆ ที่เราได้แนะนำไป คุณจะสามารถเลือกเลขทะเบียนที่นำโชคลาภและความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับชีวิตได้อย่างมั่นใจ!



11

การกู้เงินนอกระบบเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญในสังคมไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไม่แน่นอนหรือเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วนในการใช้เงิน บทความนี้จะนำเสนอประสบการณ์จากผู้ที่เคยกู้เงินนอกระบบและวิธีการแก้ปัญหาหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประสบการณ์จากผู้กู้เงินนอกระบบ

- ความรู้สึกและแรงจูงใจในการกู้เงิน

หลายคนที่เคยกู้เงินนอกระบบมักมีเหตุผลที่แตกต่างกันไป เช่น การรักษาสุขภาพ การลงทุนในธุรกิจ หรือการชำระหนี้เก่า โดยทั่วไปแล้ว ผู้กู้มักรู้สึกถึงความกดดันและความจำเป็นที่ต้องใช้เงินอย่างเร่งด่วน ซึ่งทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะกู้เงินจากแหล่งที่ไม่เป็นทางการ

- ผลกระทบจากการกู้เงินนอกระบบ

การกู้เงินนอกระบบมักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก ซึ่งอาจทำให้ผู้กู้ต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ผู้กู้หลายคนรายงานว่าพวกเขารู้สึกเครียดและวิตกกังวลเกี่ยวกับการชำระหนี้ และบางครั้งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ในครอบครัวและการทำงาน

วิธีการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ

### 1. การจัดทำแผนการเงิน

การจัดทำแผนการเงินที่ชัดเจนเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ ผู้กู้ควรประเมินรายได้และรายจ่ายของตนเอง เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรตั้งเป้าหมายในการชำระหนี้และวางแผนการใช้จ่ายให้เหมาะสม

### 2. การเจรจากับเจ้าหนี้

หากผู้กู้มีปัญหาในการชำระหนี้ ควรพยายามเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อหาทางออกที่ดี เช่น การขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือขยายระยะเวลาการชำระหนี้ การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาจะช่วยให้เจ้าหนี้เข้าใจสถานการณ์ของผู้กู้มากขึ้น

### 3. การขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มีหน่วยงานและองค์กรที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเงินและการจัดการหนี้ เช่น สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจการเงิน (ธปท.) หรือหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาด้านการเงิน ผู้กู้ควรพิจารณาขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุด

### 4. การสร้างรายได้เสริม

การหางานเสริมสามารถช่วยเพิ่มรายได้และทำให้ผู้กู้สามารถชำระหนี้ได้เร็วขึ้น เช่น การทำงานพาร์ทไทม์หรือการขายสินค้าออนไลน์ การมีรายได้เสริมจะช่วยลดความเครียดและเพิ่มความมั่นคงทางการเงิน

การกู้เงินนอกระบบเป็นปัญหาที่ต้องการการจัดการอย่างรอบคอบ ผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในการกู้เงินนอกระบบควรเรียนรู้จากความผิดพลาดและพยายามหาวิธีการแก้ปัญหาหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ การวางแผนการเงิน การเจรจากับเจ้าหนี้ และการขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นวิธีที่สามารถช่วยให้ผู้กู้สามารถฟื้นตัวจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้

หากคุณหรือคนที่คุณรู้จักกำลังเผชิญกับปัญหาหนี้จากการกู้เงินนอกระบบ อย่าลังเลที่จะขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ  รวมหนี้บัตรเครดิต รวมหนี้เป็นก้อนเดียว เพื่อให้สามารถกลับมามีชีวิตทางการเงินที่มั่นคงได้อีกครั้ง




12


การรักษาสุขภาพเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสนใจ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีระบบการรักษาพยาบาลที่หลากหลาย การเช็กสิทธิการรักษาเป็นขั้นตอนที่สำคัญเพื่อให้คุณได้รับการดูแลที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงขั้นตอนการเช็กสิทธิการรักษาสำหรับคนไทยอย่างละเอียด

## 1. ทำความเข้าใจกับสิทธิการรักษา

ก่อนที่คุณจะเริ่มเช็กสิทธิการรักษา คุณควรทำความเข้าใจกับประเภทของสิทธิการรักษาที่มีอยู่ในประเทศไทย เช่น

- **สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า**: สำหรับประชาชนทุกคนที่มีบัตรประชาชน
- **สิทธิประกันสังคม**: สำหรับผู้ที่ทำงานในระบบประกันสังคม
- **สิทธิประกันสุขภาพของข้าราชการ**: สำหรับข้าราชการและครอบครัว

การรู้จักสิทธิของคุณจะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น

## 2. ขั้นตอนการเช็กสิทธิการรักษา

### 2.1 ตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาลผ่านเว็บไซต์

คุณสามารถเช็กสิทธิการรักษาได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานประกันสังคม หรือเว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:

1. เข้าไปที่เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง
2. ค้นหาหมวดหมู่ “ตรวจสอบสิทธิ”
3. กรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น หมายเลขบัตรประชาชน
4. กดค้นหาและรอผลการตรวจสอบ

### 2.2 ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

หากคุณไม่สะดวกในการเช็กสิทธิผ่านเว็บไซต์ คุณสามารถติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เช่น สำนักงานประกันสังคม หรือโรงพยาบาลที่คุณต้องการเข้ารับการรักษา โดยสามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการรักษาได้

### 2.3 ใช้แอปพลิเคชันมือถือ

ในยุคดิจิทัลนี้ หลายหน่วยงานได้พัฒนาแอปพลิเคชันมือถือที่ช่วยให้คุณสามารถเช็กสิทธิการรักษาได้อย่างสะดวกสบาย คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องและทำการเช็กสิทธิได้ตลอดเวลา

## 3. สิ่งที่ควรเตรียมก่อนเข้ารับการรักษา

เมื่อคุณได้เช็กสิทธิการรักษาแล้ว ควรเตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประชาชน ใบรับรองแพทย์ และเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การเข้ารับการรักษาเป็นไปอย่างราบรื่น


การเช็กสิทธิการรักษาเป็นขั้นตอนที่สำคัญสำหรับคนไทยทุกคน เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงการรักษาที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ การรู้จักสิทธิของตนเองจะช่วยให้คุณสามารถดูแลสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น

หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับสิทธิการรักษา อย่าลังเลที่จะติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือสอบถามผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้

เพื่อให้คุณไม่พลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสิทธิการรักษาและการดูแลสุขภาพ สามารถติดตามข่าวสารและข้อมูลที่เป็นประโยชน์ได้ที่เว็บไซต์ของกระทรวงสาธารณสุข หรือช่องทางโซเชียลมีเดียที่เชื่อถือได้




13
กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มากมาย สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจเมืองนี้ การเดินทางด้วยรถสาธารณะถือเป็นทางเลือกที่สะดวกและประหยัด วันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางได้สะดวกจากรถสาธารณะในกรุงเทพฯ

## 1. วัดพระแก้วและพระบรมมหาราชวัง

วัดพระแก้ว (Wat Phra Kaew) และพระบรมมหาราชวัง (Grand Palace) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในเขตพระนคร สามารถเดินทางได้สะดวกโดยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสะพานตากสิน แล้วต่อเรือข้ามฟากไปยังท่าช้าง

### ข้อมูลเพิ่มเติม:
- เวลาทำการ: 08:30 - 15:30 น.
- ค่าเข้าชม: 500 บาท

## 2. ตลาดนัดจตุจักร

ตลาดนัดจตุจักร (Chatuchak Weekend Market) เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่เที่ยวใกล้ mrt  เปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถหาซื้อสินค้าหลากหลายประเภท ตั้งแต่เสื้อผ้า ของที่ระลึก ไปจนถึงอาหารอร่อย

### การเดินทาง:
สามารถใช้รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีหมอชิต หรือ MRT ลงที่สถานีจตุจักร

## 3. สยามพารากอน

สยามพารากอน (Siam Paragon) เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อเสียงในกรุงเทพฯ ที่นี่คุณจะพบกับแบรนด์สินค้าชั้นนำ ร้านอาหารระดับมิชลิน และโรงภาพยนตร์ที่ทันสมัย

### การเดินทาง:
สามารถใช้รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม

## 4. วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณราชวราราม (Wat Arun) เป็นวัดที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา สามารถเดินทางไปยังวัดนี้ได้โดยการนั่งเรือจากท่าช้าง

### ข้อมูลเพิ่มเติม:
- เวลาทำการ: 08:00 - 17:30 น.
- ค่าเข้าชม: 50 บาท

## 5. เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟรอนท์

เอเชียทีค (Asiatique The Riverfront) เป็นตลาดกลางคืนที่มีบรรยากาศสุดชิลล์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มีร้านค้า ร้านอาหาร และกิจกรรมบันเทิงมากมาย

### การเดินทาง:
สามารถนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาจากท่าพระจันทร์ หรือใช้บริการรถแท็กซี่

กรุงเทพฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่สามารถเดินทางได้สะดวกจากรถสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นวัด พระราชวัง ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า การใช้รถสาธารณะไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังเป็นวิธีที่ดีในการสัมผัสบรรยากาศของเมืองอีกด้วย

หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางมาที่กรุงเทพฯ อย่าลืมสำรวจสถานที่เหล่านี้เพื่อให้การเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความสนุกสนานและประสบการณ์ที่น่าจดจำ!



14


การเดินทางไปยุโรปด้วยตัวเองเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและน่าจดจำ หากคุณกำลังวางแผนที่จะสำรวจทวีปประเทศน่าเที่ยวที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และธรรมชาติที่สวยงาม บทความนี้จะช่วยให้คุณมีแนวทางที่ชัดเจนในการเตรียมตัวและการเดินทางที่ดีที่สุด

## ทำไมต้องเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง?

การเดินทางด้วยตัวเองให้ความอิสระในการเลือกเส้นทางและกิจกรรมที่คุณสนใจ คุณสามารถสำรวจสถานที่ที่ไม่เป็นที่นิยมและสัมผัสกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเปรียบเทียบกับการทัวร์กลุ่ม

## การวางแผนการเดินทาง

### 1. กำหนดจุดหมายปลายทาง

ยุโรปมีหลายประเทศที่น่าสนใจ เช่น ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน และเยอรมนี คุณควรเลือกประเทศหรือเมืองที่คุณสนใจมากที่สุด และกำหนดระยะเวลาในการเดินทาง

### 2. จัดทำงบประมาณ

การวางแผนงบประมาณเป็นสิ่งสำคัญ ควรคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ที่พัก อาหาร และกิจกรรมต่าง ๆ โดยการวิจัยราคาที่พักและการเดินทางล่วงหน้าเพื่อให้คุณสามารถจัดการงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

### 3. การจองตั๋วและที่พัก

เมื่อคุณได้กำหนดจุดหมายและงบประมาณแล้ว ให้ทำการจองตั๋วเครื่องบินและที่พักล่วงหน้า การจองล่วงหน้าจะช่วยให้คุณได้ราคาที่ดีที่สุดและมั่นใจว่าคุณจะมีที่พักในช่วงเวลาที่คุณเดินทาง

## การเตรียมตัวก่อนเดินทาง

### 1. เอกสารสำคัญ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพาสปอร์ตของคุณมีอายุใช้งานเหลือมากพอ และหากประเทศที่คุณจะไปต้องมีวีซ่า ควรทำการขอวีซ่าล่วงหน้า

### 2. การศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรมและกฎระเบียบ

เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมและกฎระเบียบของประเทศที่คุณจะไป เช่น การแต่งกาย การให้ทิป และการใช้ภาษาท้องถิ่น เพื่อให้คุณสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ง่ายขึ้น

## การเดินทางในยุโรป

### 1. การใช้ระบบขนส่งสาธารณะ

ยุโรปมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ เช่น รถไฟ รถบัส และรถราง คุณสามารถใช้บัตรโดยสารที่สามารถใช้ได้หลายวันเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย

### 2. การเดินทางระหว่างเมือง

การเดินทางระหว่างเมืองในยุโรปสามารถทำได้ง่ายดายด้วยการใช้รถไฟความเร็วสูง เช่น Eurostar หรือ Thalys ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและสัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างการเดินทาง

## สถานที่ท่องเที่ยวในทวีปยุโรปที่ไม่ควรพลาด

- **ปารีส, ฝรั่งเศส**: หอไอเฟล, พิพิธภัณฑ์ลูฟร์
- **โรม, อิตาลี**: โคลอสเซียม, โบสถ์เซนต์ปีเตอร์
- **บาร์เซโลนา, สเปน**: โบสถ์ซากราดา ฟามีเลีย, พาร์คกูเอล
- **เบอร์ลิน, เยอรมนี**: กำแพงเบอร์ลิน, ประตูบรันเดนบูร์ก

การเดินทางไปยุโรปด้วยตัวเองเป็นประสบการณ์ที่มีคุณค่าและน่าจดจำ หากคุณเตรียมตัวอย่างดีและมีแผนการที่ชัดเจน คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับการเดินทางได้อย่างเต็มที่ อย่าลืมแชร์ประสบการณ์ของคุณกับเพื่อน ๆ และครอบครัว เพื่อให้พวกเขาได้แรงบันดาลใจในการเดินทางเช่นกัน

   

15

การออมเงินถือเป็นวิธีสะสมทุนทรัพย์เพื่ออนาคตที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้ แต่สาเหตุที่ทำให้แต่ละคนได้ผลในการเก็บออมแตกต่างกันอาจจะไม่ใช่เพราะไม่พยายามเก็บเงิน แต่เป็นเพราะ วิธีเก็บเงิน ที่ไม่หลากหลาย ทำให้เก็บเงินได้น้อย มีรูรั่วให้เงินไหลออกไปจนแทบจะไม่ได้เก็บ ซึ่งวันนี้เรามี 5 วิธีออมเงิน ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เก็บเล็กผสมน้อยได้ทุกวันไม่เดือดร้อนรายจ่ายประจำวัน

กำหนดตารางออมเงิน
   วิธีการเก็บเงิน แบบนี้จะต้องวางเป้าหมายเป็นจำนวนเงินและระยะเวลาที่ต้องการเก็บ เช่น ต้องการเก็บให้ได้ 3,000 บาท ภาย 60 วัน จากนั้นก็สร้างตารางขึ้นมาแล้วกำหนดว่าในแต่ละวันต้องเก็บวันละเท่าไหร่จึงจะครบ ซึ่งวิธีนี้ช่วยให้เรามีเป้าหมายที่แน่ชัด วางแผนล่วงหน้าได้เป็นเดือน มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

สร้างเงื่อนไขในการเก็บเงินให้ตัวเอง
   สำหรับใครที่ไม่ค่อยมีแรงจูงใจในการออมเงินให้ลองใช้วิธีสร้างเงื่อนไขกับตัวเอง เช่น เข้าเรียนสาย 10 นาที เก็บเงิน 100 บาท, น้ำหนักขึ้น 1 กิโลกรัม เก็บ 500 บาท เป็นต้น ซึ่งวิธีนี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจ ทำให้เกิดความรู้สึกท้าทายอยากควบคุมพฤติกรรมตัวเอง สุดท้ายแล้วอาจทำให้เรามีผลพลอยได้คือนิสัยเชิงลบบางอย่างของเราถูกแก้ไขแบบไม่รู้ตัว

เก็บเงินตามเลขท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาล
   สำหรับใครที่ชอบ วิธีเก็บเงิน แบบได้ลุ้นสักหน่อย แตไม่มีโอกาสได้ขึ้นเงินสลากกินแบ่งรัฐบาล  ลองหันมาเก็บเงินจากเลขท้าย 3 ตัว ของสลากกินแบ่งรัฐบาลในแต่ละงวด ช่วยเพิ่มความน่าสนุกในการเก็บเงินมากขึ้น และที่สำคัญคือหากทำได้จริงทุกเดือนจนครบ 1 ปี รับรองว่าเงินออมที่เก็บได้น่าจะแตะหลักหมื่นอย่างแน่นอน

แข่งเก็บเงินในครอบครัว
   ใครที่ยังรู้สึกขาดแรงจูงใจในการเก็บเงินให้ลองชวนคนในครอบครัวมาแข่งกันเก็บเงินชิงเงินรางวัล เช่น กำหนด 1 เดือน ใครเก็บเงินได้มากที่สุดได้เงินรางวัลประจำบ้าน เป็นอีกวิธีที่เพิ่มความสนุกในการเก็บออม แถมยังมีผลพลอยได้เป็นการสานสัมพันธ์ในครอบครัวด้วย

เก็บเงินด้วยการเปิดบัญชีฝากประจำ
   การเปิดบัญชีฝากประจำ ถือเป็น วิธีออมเงิน ที่จะช่วยฝึกความมีวินัยในตัวเอง เพราะต้องเก็บเงินทุกเดือนแบบเลี่ยงไม่ได้ เหมาะสำหรับคนที่มีรายได้ประจำ ซึ่งบัญชีฝากประจำที่น่าสนใจ ได้แก่ Krungthai ZERO TAX MAX ที่จะช่วยให้เราออมเงินได้อย่างสม่ำเสมอทุกเดือน พร้อมได้ดอกเบี้ยอัตราสูง สามารถเลือกได้ทั้งแบบฝาก 24 เดือน, 36 เดือน และ 48 เดือน ที่สำคัญคือปลอดภาษี สำหรับเด็ก ๆ ก็มีบัญชีเงินฝากที่น่าสนใจอย่าง Krungthai Kids Savings ซึ่งไม่ต้องฝากต่อเนื่องทุกเดือน แถมยังได้รับดอกเบี้ยพิเศษหากฝากมากกว่าถอน เหมาะสำหรับฝึกวินัยการออมให้ลูก ๆ หลาน ๆ

จากวิธีการเก็บออมที่ได้แนะนำกันไปข้างต้นจะเห็นได้ว่าการออมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ขอเพียงมีความตั้งใจและมีระเบียบวินัยในการออม เงินเก็บก้อนใหญ่ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม



หน้า: [1] 2 3 ... 5