1
โพสต์ประกาศฟรี ประกาศสินค้าฟรี โพสต์กระทู้ฟรี ประกาศฟรี ทั่วไป / บอกต่อเทคนิคเลือกซื้อ ประกันสุขภาพแบบไหนดี ให้ได้ความคุ้มครองคุ้มค่า
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 14:00:46 »
ปัจจุบันการทำ ‘ประกันชีวิต’ หรือ ‘ประกันสุขภาพ’ ถือเป็นหลักประกันชีวิตสำคัญที่ได้รับความนิยมในหมู่คนหนุ่ม-สาววัยทำงานอย่างมาก สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะต้องการลดภาระค่าใช้จ่ายยามเจ็บป่วยหรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน แต่สำหรับมือใหม่ที่ยังไม่เคยทำประกันมาก่อน อาจจะมีคำถามว่าควรเลือกทำ ประกันสุขภาพแบบไหนดี ให้ได้ความคุ้มครองคุ้มค่ามากที่สุด วันนี้เราจะพาไปหาคำตอบกัน
1.เลือกจากวงเงินความคุ้มครอง
วงเงินคุ้มครองคือจำนวนเงินสูงสุดที่ผู้ทำประกันจะได้รับในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้ง หมายความว่ายิ่งวงเงินคุ้มครองสูง ก็ยิ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มาก ไม่ต้องควักเงินส่วนตัวมาโปะเพิ่ม และกรมธรรม์ที่เลือกควรให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) และค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงครอบคลุมการรักษาเฉพาะทาง เช่น ทันตกรรม คลอดบุตร เป็นต้น
2.เลือกจากเบี้ยประกัน
ลำดับต่อมาคือการเลือก ‘เบี้ยประกัน’ ว่า เราสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะบางคนแค่เห็นว่ามีวงเงินคุ้มครองสูงและให้ผลตอบแทนก้อนโตเมื่อสิ้นสุดสัญญา ก็หลับหูหลับตาซื้อประกันทันที แต่กลับลืมดูว่าค่าเบี้ยประกันก็สูงตามผลประโยชน์ที่ได้รับด้วย สุดท้ายก็จ่ายเบี้ยประกันไม่ไหว ต้องขอเวนคืนกรมธรรม์ โดยค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 10 – 15% ของรายได้ต่อปี
3.เลือกจากสถานพยาบาล
ควรเลือกประกันที่มีสถานพยาบาลจำนวนมากเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทประกัน เพราะจะช่วยให้เราสามารถเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลทุกที่ เวลาเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าเดินทางไปรักษาตัวในสถานพยาบาลที่มีสิทธิ์เบิกประกัน
4.เลือกจากเงินชดเชย
สำหรับมนุษย์เงินเดือนหรืออาชีพฟรีแลนซ์ การขาดรายได้ในช่วงพักรักษาตัวถือเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น เราจึงควรเลือกประกันที่ครอบคลุมการจ่ายเงินชดเชยช่วงพักรักษาตัวเป็นรายวัน ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปได้ไม่มากก็น้อย รวมถึงเงินชดเชยในกรณีพิการหรือทุพพลภาพด้วย
5.เลือกจากบริษัทประกัน
ควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคงทางการเงิน และที่สำคัญคือต้องมีความจริงใจในการดูแลลูกค้า เมื่อถึงคราวเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวจะได้อุ่นใจว่าจะมีคนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ไม่ได้เผชิญปัญหาตามลำพัง
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือกซื้อประกันสุขภาพที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเลือกประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ และการซื้อประกันสุขภาพยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดถึง 25,000 บาทอีกด้วย และสำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกซื้อ ประกันสุขภาพแบบไหนดี ก็โดยวันนี้สามารถเข้าไปเลือกดูประกันแต่ละแบบรวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ที่ https://www.krungsricard.com/th/promotion/category/Insurance-FinancialService
1.เลือกจากวงเงินความคุ้มครอง
วงเงินคุ้มครองคือจำนวนเงินสูงสุดที่ผู้ทำประกันจะได้รับในการรักษาพยาบาลแต่ละครั้ง หมายความว่ายิ่งวงเงินคุ้มครองสูง ก็ยิ่งครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้มาก ไม่ต้องควักเงินส่วนตัวมาโปะเพิ่ม และกรมธรรม์ที่เลือกควรให้ความคุ้มครองทั้งค่ารักษาผู้ป่วยนอก (OPD) และค่ารักษาผู้ป่วยใน (IPD) รวมถึงครอบคลุมการรักษาเฉพาะทาง เช่น ทันตกรรม คลอดบุตร เป็นต้น
2.เลือกจากเบี้ยประกัน
ลำดับต่อมาคือการเลือก ‘เบี้ยประกัน’ ว่า เราสามารถจ่ายเบี้ยประกันได้มากน้อยแค่ไหน เพราะบางคนแค่เห็นว่ามีวงเงินคุ้มครองสูงและให้ผลตอบแทนก้อนโตเมื่อสิ้นสุดสัญญา ก็หลับหูหลับตาซื้อประกันทันที แต่กลับลืมดูว่าค่าเบี้ยประกันก็สูงตามผลประโยชน์ที่ได้รับด้วย สุดท้ายก็จ่ายเบี้ยประกันไม่ไหว ต้องขอเวนคืนกรมธรรม์ โดยค่าเบี้ยประกันที่เหมาะสมไม่ควรเกิน 10 – 15% ของรายได้ต่อปี
3.เลือกจากสถานพยาบาล
ควรเลือกประกันที่มีสถานพยาบาลจำนวนมากเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทประกัน เพราะจะช่วยให้เราสามารถเข้ารักษาตัวในสถานพยาบาลทุกที่ เวลาเจ็บป่วยหรือเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้ไม่ต้องเสียเวลาเสียค่าเดินทางไปรักษาตัวในสถานพยาบาลที่มีสิทธิ์เบิกประกัน
4.เลือกจากเงินชดเชย
สำหรับมนุษย์เงินเดือนหรืออาชีพฟรีแลนซ์ การขาดรายได้ในช่วงพักรักษาตัวถือเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น เราจึงควรเลือกประกันที่ครอบคลุมการจ่ายเงินชดเชยช่วงพักรักษาตัวเป็นรายวัน ซึ่งจะช่วยชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปได้ไม่มากก็น้อย รวมถึงเงินชดเชยในกรณีพิการหรือทุพพลภาพด้วย
5.เลือกจากบริษัทประกัน
ควรเลือกบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ มีความมั่นคงทางการเงิน และที่สำคัญคือต้องมีความจริงใจในการดูแลลูกค้า เมื่อถึงคราวเจ็บป่วยต้องเข้ารักษาตัวจะได้อุ่นใจว่าจะมีคนช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย ไม่ได้เผชิญปัญหาตามลำพัง
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคการเลือกซื้อประกันสุขภาพที่เรานำมาแนะนำกันในวันนี้ หวังว่าจะช่วยให้ทุกคนเลือกประกันที่เหมาะกับตัวเองได้ และการซื้อประกันสุขภาพยังสามารถนำไปลดหย่อนภาษี ได้สูงสุดถึง 25,000 บาทอีกด้วย และสำหรับใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะเลือกซื้อ ประกันสุขภาพแบบไหนดี ก็โดยวันนี้สามารถเข้าไปเลือกดูประกันแต่ละแบบรวมถึงสิทธิพิเศษต่าง ๆ ได้ที่ https://www.krungsricard.com/th/promotion/category/Insurance-FinancialService